แผนที่กระบี่
- แผนที่กระบี่
- ข้อมูลทั่วไป
- การเดินทาง
- งานประเพณี
- สถานที่ท่องเที่ยว
กระบี่ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่มีเนื้อที่ประมาณ 4,708 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 46 ของประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา ที่ดอน ที่ราบ และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ ริมปากอ่าวและรอบหมู่เกาะหลายเกาะคือ ป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ มีภูเขาพนมเบญจาเป็นภูเขาสูงที่สุดของกระบี่ (1,397 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง) และเป็นต้นกำเนิดของคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย สายน้ำสำคัญของจังหวัดจากหลักฐานทางโบราณคดีที่ขุดค้นพบในเขตจังหวัดกระบี่ โดยหลักฐานอายุเก่าแก่ที่สุดคือถ้ำหมอเขียว ที่มีอายุถึง 27,000-37,000 ปีนั้น ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ที่นี่เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณก่อนประวัติศาสตร์ มีการขุดค้นพบเครื่องมือยุคหินจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตอำเภอคลองท่อม อีกทั้งยังพบภาพเขียนสีโบราณบนผนังถ้ำหลายแห่ง เช่น ถ้ำผีหัวโต เป็นต้นนอกเหนือจากการเป็นชุมชนเก่าแก่ กระบี่น่าจะเป็นศูนย์กลางการเดินทางข้ามคาบสมุทรมลายูจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก และเป็นศูนย์กลางทางการค้าอีกด้วย โดยพบหลักฐานสำคัญคือลูกปัดโบราณจำนวนมากในเขตอำเภอคลองท่อมจนกระทั่งเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า กระบี่คือเมืองบันไทยสมอ ซึ่งเป็น 1 ใน 12 เมืองนักษัตร ขึ้นอยู่กับอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช) โดยมีรูปลิงเป็นตราประจำเมือง และเป็นชุมชนซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่เรื่อยมาจนกระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อเมืองถลาง (หรือภูเก็ต) ถูกพม่าเผาทำลาย กระบี่จึงได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองท่าทดแทน ในยุคนี้มีการคล้องช้างป่าที่บ้านปกาไสยกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ช่วงนี้เองที่มีผู้คนอพยพมาตั้งหลักแหล่งมากขึ้นจนกลายเป็นชุมชนใหญ่ และเจริญขึ้นเป็นแขวงเมือง ชื่อแขวงเมืองปกาไสย โดยต่อมาได้ย้ายเมืองมาอยู่ริมทะเล บริเวณปากแม่น้ำกระบี่ เพราะที่ตั้งเมืองเดิมอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินนั้นไม่สะดวกต่อการค้าขายทางเรือกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2415 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะแขวงเมืองปกาไสยขึ้นเป็นเมือง และพระราชทานนามว่า “เมืองกระบี่” ขึ้นอยู่กับนครศรีธรรมราช จากนั้นจึงโอนไปขึ้นกับมณฑลภูเก็ตใน พ.ศ. 2439 จนถึง พ.ศ. 2444 ได้ย้ายเมืองมาอยู่ ณ ที่ตั้งของศาลากลางหลังปัจจุบัน และได้รับการยกฐานะเป็นจังหวัดใน พ.ศ. 2476 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ดังนี้คือ
อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเขาพนม อำเภอคลองท่อม อำเภอปลายพระยา อำเภอลันตา อำเภออ่าวลึก อำเภอลำทับ อำเภอเหนือคลอง
จังหวัดกระบี่มีอาณาเขตดังนี้
ทิศเหนือ จดจังหวัดพังงาและสุราษฎร์ธานี
ทิศใต้ จดจังหวัดตรังและทะเลอันดามัน
ทิศตะวันออก จดจังหวัดตรังและนครศรีธรรมราช
ทิศตะวันตก จดจังหวัดพังงาและทะเลอันดามัน
การเดินทางภายในจังหวัดกระบี่ จากตัวเมืองกระบี่มีรถโดยสารสองแถวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น หาดนพรัตน์ธารา สุสานหอย อ่าวนาง ถ้ำเสือ น้ำตกห้วยโต้และอ่าวลึก ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ หรือ เช่ารถจากบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ในตัวเมืองกระบี่
การเดินทาง
ทางรถยนต์
ทางรถยนต์
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง-พังงา-กระบี่ ระยะทาง 946 กิโลเมตร
- จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีก ถึงจังหวีดกระบี่ ระยะทาง 814 กิโลเมตร
- การเดินทางโดยรถยนต์จากภูเก็ต ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และหมายเลข 4 ระยะทาง 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง จากสถานีขนส่งภูเก็ตมีบริการรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดกระบี่ทุกวัน
เครื่องบิน
จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินจังหวัดกระบี่
เรือ
จากจังหวัดกระบี่ มีเรือโดยสารที่ท่าเรือเจ้าฟ้า หรือที่ท่าเรืออ่าวพระนาง ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 1/2 ชั่วโมง - 2 ชั่วโมง การเดินทางโดยเรือ จากจังหวัดภูเก็ต ก็มีระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร หรือจะโดยสารเรือที่ท่าเรือฉลอง อ่าวมะขาม จังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 1/2 ชั่วโมง - 2 ชั่วโมง ก็ได้เช่นกัน
รถไฟ
จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงได้ทั้งที่สถานีรถไฟ จังหวัดตรัง สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถโดยสารเข้า จังหวัดกระบี่
ทางรถประจำทาง
ทางรถโดยสารประจำทาง บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน รายละเอียดติดต่อที่ โทร. 434-1200, 434-7192
ทางรถไฟ ทางรถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มาลงที่สถานีรถไฟจังหวัดตรัง หรือสถานีรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นต่อรถยนต์โดยสาร หรือรถแท็กซี่รับจ้างเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690
ทางเครื่องบิน ทางเครื่องบิน จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ลงที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต แล้วต่อรถยนต์โดยสารเข้าจังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยประชาสัมพันธ์ บริษัทการบินไทย จำกัด โทร. 02-356-1111
การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีได้ทั้งจากกระบี่และภูเก็ต
จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ 2 เที่ยว เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 150 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณสอง ชั่วโมงครึ่ง และมีเรือเร็วนำเที่ยวเช้าไปเย็นกลับ ออกจากอ่าวนาง เวลา 09.00 น. และกลับเวลา 17.00 น. ติดต่อโทร. 0 7563 7152-3 สำหรับบริษัท อันดามัน เวฟ มาสเตอร์ จะมีเรือโดยสารออกจากท่าเรือเจ้าฟ้า เรือออกเวลา 10.00 น. และ 14.00 น. ค่าโดยสารคนละ 200 บาท สนใจสอบถามได้ที่ บริษัท เอ ดี วี จำกัด ถนนข้าวสาร โทร. 0 2281 1463-5 หรือ บริษัท อันดามัน เวฟ มาสเตอร์ จำกัด โทร. 0 7563 0471 ส่วนการเดินทางจากภูเก็ตมีเรือนำเที่ยวเกาะพีพีแบบเช้าไปเย็นกลับ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไปในตัวเมืองภูเก็ต
นอกจากนี้บริเวณอ่าวต้นไทรบนเกาะพีพีดอน มีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยวตามชายหาดต่าง ๆ รวมถึงเกาะพีพีเลด้วย บริษัท พีพี แฟมิลี่ จำกัด โทร. 0 7561 2463
*** หมายเหตุ: ราคาค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง
การเดินทางภายในกระบี่
ในตัวเมืองกระบี่มีรถโดยสารประจำทางไปยังอำเภอต่างๆ ได้อย่างสะดวก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะได้หลายรูปแบบตามอัธยาศัย สอบถามรายละเอียดได้ที่สถานีขนส่งกระบี่ โทร. 0 7561 1804
นอกจากนี้ยังมีรถสองแถวไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น อ่าวนาง สุสานหอยบ้านแหลมโพธิ์ หาดนพรัตน์ธารา ฯลฯ รวมทั้งมีรถตู้ให้บริการในเส้นทางสายกระบี่-เกาะลันตา (สอบถามและจองที่นั่งได้ที่โทร. 0 7562 2197) คิวรถสองแถวและรถตู้ส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมือง แถวๆ ถนนมหาราช
นอกจากเส้นทางบนบก ในตัวเมืองกระบี่ยังมีเรือโดยสารให้บริการไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น อ่าวไร่เล เกาะพีพี เกาะลันตา ฯลฯ โดยส่วนใหญ่แล้วเรือจะจอดเทียบอยู่ที่ท่าเจ้าฟ้า สอบถามที่โทร. 0 7562 3634-5
ระยะทางจากอำเภอเมืองกระบี่ไปยังอำเภอต่างๆ คือ
อำเภอเหนือคลอง 17 กิโลเมตร
อำเภอเขาพนม 39 กิโลเมตร
อำเภอคลองท่อม 42 กิโลเมตร
อำเภออ่าวลึก 43 กิโลเมตร
อำเภอปลายพระยา 66 กิโลเมตร
อำเภอลำทับ 67 กิโลเมตร
อำเภอเกาะลันตา 103 กิโลเมตร
งานประเพณีสารทเดือนสิบ
ประเพณีสารทเดือนสิบจะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำถึงแรม 15 ค่ำเดือนสิบของทุกปี นิยมทำบุญกันมากคือวันแรม 13-15 ค่ำ ประเพณีวันสารทเดือนสิบ โดยในส่วนใหญ่แล้วจะตรงกับเดือนกันยายน เป็นประเพณีสำคัญของชาวใต้เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ขนมที่ขาดไม่ได้คือ ขนมลา ขนมเจาะหู ขนมพอง ขนมบ้า และขนมกงหรือไข่ปลา
งานประเพณีชักพระ
ประเพณีชักพระเป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวใต้ ซึ่งเป็นประเพณีทำบุญในวันออกพรรษา ซึ่งตรงกับ วันแรม 1 ค่ำเดือน 11 เดิมจัดเป็นบุษบกพนมเรือสลักลวดลายสวยงาม มีการละเล่นเพลงพื้นเมือง เช่น เพลงเรือ (เพลงชักพระ) ปัจจุบันได้นำยอดพนมเรือใส่รถแทนเรือ การละเล่นเพลงชักพระจึงหมดไป
งานกระบี่เบิกฟ้าอันดามัน
จัดขึ้นตรงกับเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัด มีกิจกรรมรื่นเริงและการแสดงทางวัฒนธรรมมากมาย และการแข่งขันกีฬาทางน้ำหลายประเภท ชมการแสดงทางวัฒนธรรม ดนตรีพื้นบ้าน และงานออกร้านซุ้มอาหาร บริเวณหาดนพรัตน์ธารา และพิธีบูชาพระแม่คงคา และฟังการอ่านโองการซึ่งเป็นพิธีกรรมที่หาดูได้ยาก
ประเพณีลอยเรือชาวเล
เกาะลันตานับเป็นงานประเพณีเก่าแก่ของชาวเลที่หาดูได้ยาก งานนี้จัดตรงกับวันเพ็ญเดือน ๖ และวันเพ็ญเดือน ๑๑ ของทุกปี โดยกลุ่มชาวเลในบริเวณเกาะลันตาและเกาะใกล้เคียงจะมาชุมนุมกันทำพิธีลอยเรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ ขอความสงบสุขมาสู่หมู่บ้าน และส่งวิญญาณบรรพบุรุษไปสู่ที่สิงสถิตอันไกลโพ้น ที่ชาวเลเรียกว่า “ฆูหนิงฌีไร” ณ ชายหาดใกล้ ๆ กับบ้านศาลาด่าน ในพิธีจะมีการร้องรำทำเพลง มีการร่ายรำรอบลำเรือด้วยจังหวะและทำนองเพลงรองเง็ง โดยจะสร้างเรือด้วยไม้ระกำ และจะมีการตัดผม ตัดเล็บ และทำตุ๊กตาไม้แทนคนใส่ลงไปในเรือ แล้วนำไปลอย เพื่อเอาความทุกข์โศก และเคราะห์ร้ายต่างๆ ออกไปกับทะเล พิธีจะคล้ายกับการลอยกระทงของชาวไทย แต่จะมีการลอยเรือติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน
เทศกาลลานตา ลันตา
ประเพณีและวัฒนธรรมของมนุษยชาติที่แตกต่างกัน ได้รวมความเป็นหนึ่งเดียวใจเดียว ปลูกสร้างความรู้รักสามัคคี ให้ผู้คนแม้จะต่างเชื้อชาติ ศาสนา และความเชื่อ ได้สะท้อนให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน ในงานเทศกาลประจำปีเกาะลันตา “เทศกาลลานตา ลันตา”
แม้จะมาจากต่างถิ่น กำเนิดมาจากต่างแดน นับถือและเคารพในสิ่งที่แตกต่าง แต่ในงานลานตา ลันตา เราจะได้พบแต่ความรื่นเริง รอยยิ้ม และความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในเกาะลันตา ด้วยเพราะงานนี้เป็นการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านและผู้ประกอบการในเกาะลันตา ที่ต้องการให้มีงานเทศกาลที่สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวของวัฒนธรรมในท้องถิ่นต่างๆ ทั้งในภาคใต้และภูมิภาคอื่นๆ ในงานลานตา ลันตา นอกจากการแสดงพื้นบ้านทางภาคใต้แล้ว ยังมีการแสดงบนเวที ซึ่งจะเป็นการแสดงของวงดนตรีสากล, การเริงระบำแบบภาคกลาง และการดนตรีเร็กเก้จากศิลปินคุณภาพ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ฟังแนวดนตรี่ผสานจากเครื่องดนตรีตะวันตกและเครื่องดนตรีตะวันออกจากวงอัสลี มาลา .
ในส่วนอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคนที่เข้ามาเที่ยวในงาน จะมีการออกร้านจากร้านค้า บาร์ และโรมแรมชื่อดังในเกาะ ในราคาถูก ซึ่งจะมีการจัดร้านให้สอดคล้องกับแนวคิดของงานคือ เป็นงานเพื่อสื่อถึงวัฒนธรรมและประเพณีของคนเกาะลันตา และที่ขาดไม่ได้และเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆเป็นอย่างมากคือ การแสดงละครใบ้, ละคนหุ่น, สอนวิชาวาดเขียน ให้เด็กๆในงานได้ชม ตลอดตามถนนทางเดิน อันได้ประดับประดาไปด้วยโคมไฟจีนหลากสีตามแนวถนนสายนี้
สถานที่ท่องเที่ยว ในเขตอำเภอเมือง
เขาขนาบน้ำ เป็นเขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตร ขนาบแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่ สามารถไปเที่ยวชมได้โดยเช่าเรือหางยาวที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น จากนั้นต้องขึ้นบันไดไปชมถ้ำ ซึ่งภายในมีหินงอกหินย้อย และเคยพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากมายอยู่ในบริเวณนี้ สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นโครงกระดูกของกลุ่มคนที่อพยพมาตั้งหลักแหล่งแต่ล้มตายลง เนื่องจากเกิดอุทกภัยอย่างฉับพลัน
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ครอบคลุมบริเวณท้องที่ตำบลหนองทะเล ตำบลไสไทย ตำบลอ่าวนาง และตำบลปากน้ำ ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งด้วยกันเช่น หาดนพรัตน์ธารา อ่าวนาง สุสานหอย และหมู่เกาะพีพี
หาดนพรัตน์ธารา อยู่ห่างจากตัวเมือง 18 กิโลเมตร ชายหาดมีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอดกลายเป็นหาดทรายยาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับเกาะเขาปากคลอง บริเวณชายหาดมีสถานที่พักของอุทยานฯ บริการแก่นักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ ตู้ ป.ณ. 23 อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81000 หรือที่กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 579-7223, 579-5734
อ่าวนาง ตั้งอยู่ห่างจากหาดนพรัตน์ธารา ตามถนนเลียบชายทะเลเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร ประกอบด้วยชายหาดหลายแห่ง มีภูเขาคั่นระหว่างชายหาด ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตา ด้านทิศตะวันออกของอ่าวมีถ้ำหินงอกหินย้อยชื่อ ถ้ำพระนาง และบริเวณด้านหน้าของอ่าวนางมีกลุ่มเกาะน้อยใหญ่ถึง 83 เกาะ ที่เป็นโขดหินรูปร่างแปลกประหลาด บ้างก็คล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนกและอื่นๆ กลุ่มเกาะเหล่านี้ส่วนใหญ่มีชื่อเป็นภาษายาวี เช่น เกาะปอดะ หรือเกาะหัวขวาน เกาะยาหมัน เกาะบะติงมิ้ง เกาะยาวาซา เกาะล่าดิง เกาะหม้อ เกาะทัพ เป็นต้น การเที่ยวชมบริเวณอ่าวนางนั้น สามารถเช่าเรือได้ในบริเวณชายหาดอ่าวนาง หรือตามรีสอร์ทต่างๆ ในบริเวณนั้น สถานที่น่าเที่ยวในบริเวณอ่าวนาง ได้แก่ หาดไร่เล หาดพระนาง ถ้ำพระนาง สระพระนาง เกาะปอดะ และเกาะทัพ เป็นต้น
สุสานหอยสี่สิบล้านปี ตั้งอยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 ซม. ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหล่อเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึงปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี ซึ่งมีเพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (มลรัฐชิคาโก) ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย
หมู่เกาะพีพี เป็นหมู่เกาะกลางทะเล อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ 40 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างกลางเส้นทางเดินเรือ กระบี่-ภูเก็ต หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะคือ เกาะพีพี และเกาะพีพีดอน
เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 กิโลเมตร เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูน มีหน้าผาสูงชันตั้งฉากกับผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ มีพื้นน้ำลึกเฉลี่ยประมาณ 20 เมตร โดยมีบริเวณน้ำลึกที่สุดประมาณ 34 เมตรอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เกาะแห่งนี้มีเวิ้งอ่าวสวยงาม อาทิ อ่าวปิเละ อ่าวมาหยา อ่าวโละซามะ ฯลฯ นอกจากนี้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือยังมีถ้ำไวกิ้ง ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จประพาสถ้ำแห่งนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำพญานาค” ตามรูปร่างหินก้อนหนึ่งที่คล้ายเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านที่มาเก็บรังนกนางแอ่นบนเกาะแห่งนี้ ภายในถ้ำทางทิศตะวันออกและทิศใต้พบภาพเขียนสีสมัยประวัติศาสตร์ เป็นรูปช้างและรูปเรือชนิดต่างๆ เช่น เรือใบยุโรป เรือใบอาหรับ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือใบใช้กังหัน และเรือกลไฟ เป็นต้น สันนิษฐานว่าภาพเขียนเหล่านี้เป็นฝีมือของนักเดินเรือหรือพวกโจรสลัด เพราะจากการศึกษาเส้นทางเดินเรือจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก บริเวณนี้อาจเป็นจุดที่เรือสามารถแวะพักหลบลมมรสุมขนถ่ายสินค้าหรือซ่อมแซมเรือได้
เกาะพีพีดอน มีเนื้อที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร กว้าง 3.5 กิโลเมตร และยาว 8 กิโลเมตร ทางเหนือของเกาะคือ แหลมตง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลประมาณ 15-20 ครอบครัว ส่วนใหญ่อพยพมาจากเกาะลิเป๊ะ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่จังหวัดสตูล บริเวณแหลมตงนี้มีธรรมชาติใต้ทะเลสวยงามมาก เหมาะแก่การดำน้ำเช่นเดียวกันกับที่บริเวณปลายแหลมหัวระเกด หาด ยาวและหินแพ นอกจากนี้ยังมีเวิ้งอ่าวคู่ที่มีความสวยงามติดอันดับโลกของอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัม ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่พักจำนวนมากบริการแก่นักท่องเที่ยวทั่วไป
การเดินทางไปหมู่เกาะพีพี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีได้ ทั้งจากกระบี่และภูเก็ต จากท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกวันละ 2 เที่ยว ค่าโดยสารประมาณคนละ 120 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง นอกจากนี้มีบริการเรือเร็วปรับอากาศของบริษัทพีพีมารีน จำกัด ค่าโดยสารคนละ 240 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับการเดินทางจากภูเก็ต มีเรือนำเที่ยวเกาะพีพีแบบเช้าไปเย็นกลับ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไปในตัวเมืองภูเก็ต บริเวณอ่าวต้นไทรบนเกาะพีพีดอนมีเรือหางยาวให้เช่าไปเที่ยวตามชายหาดต่างๆ และเกาะพีพีเล
สำนักวิปัสสนาถ้ำเสือเขาแก้ว อ่าวลูกธนู ตั้งอยู่ที่บ้านถ้ำเสือในตำบลกระบี่น้อย ห่างจากตัวเมืองกระบี่ไปตามถนนศรีตรังแล้วแยกซ้ายเข้าถนนราษฎรพัฒนาไปประมาณ 9 กิโลเมตร เหตุที่ได้ชื่อว่า “ถ้ำเสือ” เพราะว่าบริเวณถ้ำด้านหน้าของทิวเขาอ่าวลูกธนูหรือที่เรียกว่า “เขาแก้ว” เคยมีเสือโคร่งขนาดใหญ่อาศัยอยู่และภายในถ้ำยังปรากฎหินธรรมชาติเป็นรูปอุ้งเท้าเสือ สภาพโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นสวนป่า แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อายุนับร้อยปีในหุบเขาคีรีวงศ์ และเนื่องจากมีเขาล้อมอยู่ทุกด้าน จึงมีถ้ำเล็ก ถ้ำน้อยอยู่มากมาย เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำลอด ถ้ำช้างแก้ว ถ้ำลูกธนู ถ้ำพระ เป็นต้น บริเวณนี้นอกจากเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์วิปัสสนาแล้ว ยังเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญถึงสองสมัยคือ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์ มีการขุดพบเครื่องมือหิน เศษภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดิบ เป็นต้น
ถ้ำเสด็จ อยู่ในเขตหมู่บ้านหนองกก ตำบลไสไทย ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 7 กิโลเมตร ซึ่งถ้ำเสด็จนี้ ชาวบ้านตั้งชื่อให้เป็นมงคลนาม เพราะเมื่อปี พ.ศ. 2452 ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวครั้งที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรถ้ำแห่งนี้ ชาวบ้านเลยเรียกชื่อถ้ำนี้ว่า ถ้ำเสด็จ ภายในถ้ำหินงอกหินย้อยสวยงาม
สระแก้ว อยู่ในเขตสวนป่าตำบลเขาทอง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 28 กิโลเมตร ตามเส้นทางกระบี่-ในสระ สระแก้วประกอบด้วยสระน้อยใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติถึง 8 สระ ได้แก่ สระน้ำลอด สระเชิงเขา สระจรเข้ขาว สระน้ำทิพย์ สระน้ำคราม สระมรกต สระหุ้นแก้ง และสระน้อย
สถานที่ท่องเที่ยว ในเขตอำเภอเขาพนม
อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา มีเนื้อที่ประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภออ่าวลึก อำเภอเขาพนม และอำเภอเมืองกระบี่ เดินทางจากสามแยกตลาดเก่าไปตามถนนศรีตรัง 1 ก.ม. เลี้ยวซ้ายตามเส้นทางตลาดเก่า-บ้านห้วยโต๊ ระยะทางประมาณ 20 ก.ม. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจามีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามทั้งลำธาร น้ำตก ถ้ำ และสัตว์ป่านานาชนิด สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมีดังนี้
น้ำตกห้วยโต้ ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 500 เมตร มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาพนมเบญจา เป็นน้ำตกที่ตกจากหน้าผา มี 11 ชั้น แต่ละชั้นมีแอ่งน้ำใหญ่ น้ำใสสะอาด มีชื่อเรียกต่างๆ กันเช่น วังเทวดา วังศก วังจาน ฯลฯ
น้ำตกห้วยสะเด ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 1.2 ก.ม. เป็นน้ำตกจากหนาผาสูง
ถ้ำเขาผึ้ง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 ก.ม. มีทั้งหมด 5 ถ้ำในบริเวณเดียวกัน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม เป็นรูปร่างต่างๆ เช่น ดอกเห็ด เจดีย์ ม่าน ฯลฯ ผนังถ้ำเป็นสีขาว มีประกายระยิบระยับดูงดงาม ผู้ประสงค์จะพักแรมในเขตอุทยานฯ ต้องนำเต็นท์ไปเอง รายละเอียดติดต่อกองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 579-7223, 579-5734
สถานที่ท่องเที่ยว อำเภออ่าวลึก
อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีพื้นที่ประมาณ 121 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขาหินปูน ป่าดิบ ป่าชายเลน และเกาะในทะเล ที่ทำการอุทยานตั้งอยู่ที่ธารโบกขรณี ตำบลอ่าวลึกใต้ ห่างจากสี่แยกตลาดอ่าวลึกเหนือ มาตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวเมืองกระบี่ เป็นระยะทาง 46 กิโลเมตร สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่
ธารโบกขรณี ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ สภาพทั่วไปเป็นธารน้ำธรรมชาติไหลลงมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ซึ่งอยู่ต่างระดับกัน รายรอบด้วยป่าไม้ร่มรื่น ด้านเหนือของธารโบกขรณี มีมณฑปพระพุทธบาทจำลองที่แกะสลักจากไม้ ประดิษฐานอยู่ใกล้กับศาลาบูชาเจ้าพ่อโต๊ะยวน-โต๊ะช่อง
ถ้ำลอดเหนือและถ้ำลอดใต้ ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภออ่าวลึกไปตามถนนอ่าวลึก-แหลมสัก ประมาณ 2 กิโลเมตร แยกขวาไปยังท่าเรือบ่อท่อ แล้วลงเรือรับจ้างไปตามลำคลองท่าปรัง ผ่านป่าชายเลนไปประมาณ 10 นาที ถ้ำลอดใต้เป็นอุโมงค์ใต้เขาหินปูน มีธารน้ำไหลผ่านอุโมงค์แคบ มีหินงอกและหินย้อยสวยงาม ส่วนถ้ำลอดเหนือเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ มีแนวอุโมงค์คดเคี้ยวและยาวกว่าถ้ำลอดใต้ เรือสามารถแล่นผ่านได้ในช่วงน้ำลงเท่านั้น
ถ้ำผีหัวโต หรือถ้ำหัวกะโหลก ตั้งอยู่ในเขตอำเภออ่าวลึกในเทือกเขาผีหัวโต ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาหินปูนล้อมรอบด้วยบึงและป่าโกงกาง นั่งเรือจากท่าเรือบ่อท่อไปประมาณ 10 นาที เลยทางแยกไปถ้ำลอดใต้เล็กน้อย จากปากถ้ำมองเข้าไปจะเห็นทางแยกเป็น 2 ทาง ทางซ้ายมือจะตัดตรงไปยังด้านหลังของถ้ำที่เป็นโพรงใหญ่ มีแสงสว่างส่องเข้ามาถึงได้ ส่วนด้านขวามือเป็นทางที่จะตรงเข้าไปยังห้องโถงของตัวถ้ำ แต่เดิมภายในถ้ำเคยพบหัวกะโหลกมนุษย์ซึ่งมีขนาดโตกว่าปกติจึงมีชื่อว่า “ถ้ำผีหัวโต” นอกจากนี้บนผนังถ้ำยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์ ตลอดจนรูปอวัยวะต่างๆ และบนพื้นถ้ำมีเปลือกหอยทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ตามเพิงผาและผนังถ้ำบนเกาะน้อยใหญ่ในเขตป่าชายเลนตอนกลางอุทยานแห่งชาติยังเป็นแหล่งภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ เช่น ถ้ำชาวเล แหลมท้ายแรด เกาะกาโรส แหลมไฟไหม้ ระยะทางแหลมสัก-แหลมไฟไหม้ 5 กิโลเมตร แหลมสัก-ถ้ำชาวเล 2 กิโลเมตร แหลมสัก-เขากาโรส หรือเกาะกาโรส 7 กิโลเมตร การเดินทางเช่าเหมาเรือหางยาวที่ท่าเรือแหลมสักตามระยะใกล้-ไกล และควรเดินทางช่วงน้ำขึ้นจะได้ขึ้นฝั่งสะดวก
ถ้ำเพชร ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก อยู่ห่างจากสี่แยกตลาดอ่าวลึกเหนือ 3 กิโลเมตร บริเวณด้านหน้ามีพระพุทธรูปปูนประดิษฐานอยู่ และมีหินสะท้อนแสงซึ่งส่องประกายสวยงามราวกับเพชรตามผนังถ้ำ การไปเที่ยวชมถ้ำเพชร สามารถติดต่อขอคนนำทางจากอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีได้ ทั้งนี้ควรนำไฟฉายติดตัวไปด้วย
ถ้ำพระ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต. อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 2 ก.ม. ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปใหญ่ 3 องค์ รอบฐานมีพระพุทธรูปไม้แกะสลักองค์เล็กตั้งอยู่โดยรอบ ฐานจะสร้างในสมัยใดไม่ปรากฏ แต่จากคำบอกเล่ากล่าวกันว่าสร้างพร้อมกับพระบรมธาตุเมืองนครฯ เนื่องจากผู้ศรัทธาที่จะเดินทางเอาทรัพย์สินเงินทองไปร่วมสร้างองค์พระบรมธาตุได้ทราบข่าวการสร้างองค์พระธาตุเสร็จสิ้นแล้ว จึงพร้อมใจกันสร้างพระพุทธรูป 3 องค์นี้ขึ้น พร้อมกับฝังทรัพย์สินเงินทองไว้อีกด้วย จากความเชื่อของชาวบ้านดังกล่าวก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะเส้นทางระหว่างอ่าวลึก-ปากลาว-ปากพนม ตลอดแม่น้ำตาปีนั้นเป็นเส้นทางเดินข้ามแหลมมลายูมาแต่โบราณเส้นทางหนึ่ง
หมู่เกาะห้อง เป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ อาทิเช่น เกาะเหลาหรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง เป็นต้น โดยมีเกาะห้องหรือเกาะเหลาปิเละ เป็นเกาะทางตอนใต้ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน มีแนวปะการังทั้งในระดับน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่การดำน้ำ ตกปลา การไปเที่ยวชมสามารถเช่าเรือจากอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ประสงค์จะค้างแรมในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ต้องนำเต็นท์มาเอง รายละเอียดติดต่อ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 579-7223, 579-5734
สถานที่ท่องเที่ยว ในเขตอำเภอคลองท่อม
พิพิธภัณฑ์สถานวัดคลองท่อม ตั้งอยู่บริเวณวัดคลองท่อม บนถนนเพชรเกษม หลัก ก.ม. ที่ 69-70 ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองท่อมประมาณ 1 กิโลเมตร นับเป็นสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักสะสมของเก่าวัตถุโบราณ เพราะพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้เก็บสะสมสิ่งของ วัตถุโบราณจำนวนมากมายที่ขุดค้นพบได้ในบริเวณที่เรียกว่า “ควนลูกปัด” อันเป็นเนินดินหลังวัดคลองท่อม อาทิเช่น เครื่องมือหิน เครื่องประดับซึ่งทำจากหินและดินเผา รูปสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกปัดอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เก่าแก่ของมนุษย์สมัยเมื่อ 5,000 ปีเศษมาแล้ว
น้ำตกหินเพิง ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 บ้านหินเพิง ตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม ห่างจากที่ว่าการอำเภอคลองท่อม 25 กิโลเมตร การเดินทางไปเที่ยวชมไปตามถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 (กระบี่-ตรัง) พอถึงคลองพนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก 8 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณชั้นล่าง อันเป็นทางที่จะขึ้นไปยังน้ำตกซึ่งทางราชการได้สร้างฝายน้ำล้นและต่อท่อประปาส่งน้ำไปใช้ในหมู่บ้าน การเที่ยวชมน้ำตกหินเพิง นักเดินทางจะต้องเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงบริเวณอันเป็นที่ตั้งของน้ำตกหินเพิงที่มียอดหน้าผาที่สูงชัน
ป่าทุ่งเตียว ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ที่หมู่บ้านบางเตียว ตำบลคลองท่อม ก่อนถึงตลาดคลองท่อมจะมีทางแยกไปหมู่บ้านบางเตียว เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร ลักษณะเป็นป่าที่ราบต่ำ มีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่ สระทุ่งเตียว สระน้ำพุ พันธุ์ไม้ต่างๆ ที่น่าสนใจ รวมทั้งนกที่หาดูได้ยากเช่น นกแต้วแร้วท้องดำ นกกระเต็นสร้อยคอสีน้ำตาลและนกเงือกดำ เป็นต้น ก่อนถึงสำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประบางคราม ประมาณ 800 เมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ป่าเขานอจู้จี้ จากจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าตามทางเดินธรรมชาติ รวมระยะทาง 2.7 กิโลเมตร รายละเอียดติดต่อสำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประบางคราม หมู่ 2 บ้านบางเตียว อ.คลองท่อมเหนือ อ.คลองท่อม จ.กระบี่
สถานที่ท่องเที่ยว ในเขตอำเภอเกาะลันตา
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 151.9 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ อันได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ เกาะลันตาน้อย เกาะตะเล็งเบ็ง และเกาะเล็กเกาะน้อย ในบริเวณใกล้เคียงรวมไปถึงหมู่เกาะห้า หมู่เกาะรอก และเกาะไหง เกาะสำคัญที่น่าท่องเที่ยวได้แก่
เกาะลันตาใหญ่ มีสภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าที่สมบูรณ์ เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเลจำนวนมากทุกวันเพ็ญเดือนหก และเดือนสิบเอ็ดจะมีพิธีลอยเรือ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวเล ด้านหลังเกาะมีหาดทรายสวยงามและมีที่ตั้งของที่ทำการอุทยานอยู่ที่แหลมโตนด ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายสุดของเกาะลันตา มีที่พักเอกชนอยู่ตามชายหาดต่างๆ การเดินทางไปเกาะลันตา สามารถโดยสารเรือจากท่าเรือบ่อม่วง อำเภอคลองท่อม ใช้เวลาประมาณ 45 นาที หรือจากท่าเจ้าฟ้า อำเภอเมือง ใช้เวลาประมาณ 2-3 ช.ม.
เกาะตะเล็งเบ็ง เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะพีพีเล มีชายหาดเล็กๆ และโพลงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย
หมู่เกาะห้า มีลักษณะเป็นกลุ่มเกาะ 5 เกาะ เกาะห้าใหญ่จะมีทุ่งหญ้าอยู่บนสันเกาะ มีเกาะรูปร่างคล้ายใบเรือ เกาะที่มีน้ำลอดใต้เกาะและมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่บางบริเวณ
เกาะรอกใน มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทรายและแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า
เกาะรอกนอก ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มีหาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังน้ำตื้น ด้านท้ายเกาะมีหาดทะลุและอ่าวม่านไพร การเดินทางไปเกาะรอก ต้องไปเช่าเรือที่ ท่าเรืออำเภอกันตัง จ.ตรัง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม.
เกาะไหง ทางทิศตะวันออกของเกาะประกอบด้วยหาดทรายยาว และมีปะการังด้านหน้าหาด นับเป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์แห่งหนึ่ง การเดินทางต้องไปลงเรือที่หาดปากเมง จ.ตรัง มีทั้งเรือโดยสารประจำและเรือเช่าเหมาลำ