มิตรภาพ Friendship
อาริสโตเติลนักปราชญ์ได้กล่าวเรื่องมิตรภาพ (Friendship) ไว้ในหนังสือ จริยศาสตร์ชื่อ Nicomachean Ethic มีใจความว่า มิตรภาพ คือ คุณธรรม หรือภาวะคุณธรรมที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ นับตั้งแต่วัยเด็กจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่มิตรภาพเป็นสิ่งที่ช่วย ให้ชีวิตมนุษย์มีความสุข เรียนรู้ข้อผิดพลาด ฟันฝ่าอุปสรรคได้อย่างไม่โดดเดี่ยว รวมทั้งชื่นชมยินดี เมื่อมีความสำเร็จในชีวิตมนุษย์ จึงไม่อาจอยู่โดดเดี่ยวปราศจากการมีเพื่อน สำหรับอาริสโตเติลแล้วมิตรภาพมีความหมายลึกซึ้งมากกว่า ความรู้สึกชอบพอ หรือถูกใจกัน มิตรภาพจะเกิดขึ้นแท้จริง จะเกิดขึ้นได้ก็ด้วย การเห็นคุณค่า ซึ่งกันและกัน ชื่นชมในความดีซึ่งกันและกัน ยอมรับและเข้าใจใน ความเป็นตัวตน ของกันและกัน โดยไม่ได้หวังประโยชน์ใดๆจากกันเป็นเป้าหมาย มิตรภาพที่มีพื้นฐานอยู่บนผลประโยชน์ ย่อมไม่ใช่มิตรภาพที่แท้จริง เป็นเพียงมิตรภาพที่ฉาบฉวยและเปราะบาง แต่มิตรภาพที่แท้จริงนอกจากจะมีพื้นฐาน อยู่บนความชื่นชมความดีซึ่งกันและกันแล้ว ด้วยเหตุนี้ผู้ที่สามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกั นและกันได้จึงเป็นคนดีและเป็นผู้มีคุณธรรม การมีเพื่อนที่ดีจึงเปรียบเสมือน ได้พรอันประเสริฐ
ความสำคัญของมิตรภาพ ไม่เพียงแต่ให้ชีวิตมีความสุข ความดีในระดับบุคคลเท่านั้น แต่มิตรภาพยังเป็นส่วนสำคัญ ที่ช่วยให้เกิดความสงบสุขในสังคม ในรัฐที่มนุษย์อาศัยอยู่ ช่วยทำให้เกิดความเที่ยงธรรมและมีเกียรติ ทั้งนี้เพราะมิตรภาพ ทำให้เกิดการเชื่อถือไว้วางใจซึ่งกันและกัน เป็นการแสดงออกถึง สภาวะทางศีลธรรมที่บุคคลมีต่อกันคือ ความรัก ความชื่นชมในความดีและ ความปรารถนาดี ที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กัน เป็นมิตรภาพที่อยู่บนความเสมอภาค ดังคำพังเพยของสังคมกรีก ที่กล่าวว่า “มิตรภาพคือความเสมอภาค” ( Friendship is equality)
เมื่อทราบความหมายของคำว่ามิตรภาพแล้ว เราหลายๆ คนมาร่วมกันสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้นตั้งแต่ในครอบครัวของเรา พ่อแม่รักใคร่กัน พี่น้องรักและเข้าใจกัน ช่วยเหลือดูแลกัน เพื่อนบ้านรักในเพื่อนบ้าน คนทำงานรักเพื่อนร่วมงาน ทุกคนมีพื้นฐานความรักความเข้าใจซึ่งกันละกัน สังคมก็ปกติสุข ความรักเป็นพื้นฐาน ที่ทำให้จิตใจคนงดงาม ความรักที่กล่าวหมายถึงความรักในตัวเพื่อนมนุษย์ เราทุกคนควรสร้างมิตรภาพไว้รอบตัวเรา เพื่อให้ตัวเราและสังคม ที่เราอยู่ มีความรักใคร่สมัครสมานสามัคคีกัน การสร้างมิตรภาพทำได้ไม่ยาก หากท่านจะทำ ในที่นี้ขอเสนอแนวทางการสร้างมิตรภาพ 10 ประการดังนี้
1. การยอมรับและให้เกียรติซึ่งกันและกัน หมายถึง ไม่ว่าเพื่อนเราจะเป็นมีฐานะอย่างไร มีการศึกษาสูงต่ำเพียงใด ขอแค่เค้าเป็นเพื่อนเรา เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา เราจงให้การยอมรับเขาทุกคนโดยปราศจากเงื่อนไข ซึ่งเราต้องให้เกียรติและเคารพ ในคุณค่าของความเป็นมนุษย์ของทุกคน มีความเป็นมิตร และความอบอุ่นใจแก่ผู้เพื่อนเราและทุกๆ คนที่ผ่านมาทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักเราก็สามารถผูกสมัครรับไมตรีได้กับทุกคน ถ้าเรารู้จักที่จะยอมรับและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
2. สร้างความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน คนเราเมื่อได้พูดคุยกัน มีการสื่อสารในเชิงบวกมันจะทำให้สัมพันธภาพเกิดขึ้น สื่อสารกันด้วยรอยยิ้ม พูดจาภาษาดอกไม้ฟังรื่นหู รู้จักยกย่องชมเชยและมีน้ำใจ สร้างมิตรจิตมิตรใจให้เกิดขึ้นในหัวใจกับทุกๆ คน พยายามเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของคนอื่น ไม่เอาตนเองเป็นศูนย์กลางของหลายๆ สิ่ง เข้าใจคนอื่นเราก็จะมีเพื่อนมีมิตรภาพที่ดียั่งยืนยาวนาน
3. มีความจริงใจ ไม่เสแสร้ง มีการแสดงออกที่บ่งถึงความคิด ความรู้สึก และเจตคติของตนเองในทางบวก ไม่ทำอะไรเพียงเพื่อหวังผลประโยชน์ของตน แต่ทำสิ่งต่างๆ ให้คนอื่นด้วยความเต็มใจและจริงใจ ที่สำคัญอย่าทำสิ่งใดๆ แบบมีเงื่อนไข เช่นคบกับเพื่อนเพื่อให้เพื่อนซื้อประกัน พอเพื่อนไม่ซื้อประกันของบริษัทตนก็ถอยห่าง พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ควรมีถ้าจะสร้างมิตรภาพ แต่ในกรณีที่ตัวเรามีอาชีพขายประกันและเราก็ต้องการมีเพื่อน เราก็ต้องแยกให้ออกว่าขณะนี้มาหาเพื่อนแบบเพื่อนที่มีน้ำใจให้กัน ไม่ใช่เอาของฝากมาให้และติดนามบัตรขายประกันมาด้วยอาจทำให้เพื่อนเสียความรู้สึกได้ หากเพื่อนเขารักเรามีมิตรภาพที่ดีแล้วสักวันเพื่อนอาจจะถามเรื่องประกันกับเราก็ได้ไม่จำเป็นต้องเร่งรัดเพื่อนเพื่อธุรกิจของตนเอง หากทำเช่นนี้ได้ท่านอาจจะได้ความจริงใจและได้ลูกค้าด้วย
4. มีน้ำใจกับคนอื่น น้ำใจในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเที่ยวเดินไปแจกของให้กับเพื่อนๆ แต่เป็นการแสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพอจะทำได้ เป็นอากัปกิริยาเช่น ช่วยถือของ หรือการมีคำพูดที่แสดงว่าห่วงหาอาทรก็อาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงการเป็นผู้มีน้ำใจได้ ปัจจุบันจะเห็นว่ามีนิสิตนักศึกษาที่ออกค่ายจิตอาสา หรือแม้กระทั่งมีจิตอาสาที่ช่วยคนยามที่เขาเดือดร้อน อย่างเช่น เหตุการณ์น้ำท่วมปี 2555 ที่ผ่านมาเราจะเห็นน้ำใจของคนไทย ที่หลั่งไหลมาทุกทิศทุกทาง ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้ำใจอาจเป็นการใช้แรงงาน หรืออื่นๆ ได้ เมื่อเรามีน้ำใจกับคนอื่น คนอื่นๆก็มีน้ำใจกับเรา สร้างน้ำใจให้เป็นนิสัย ฝึกให้ชินมิตรภาพก่อเกิดแน่นอน
5. มีความเป็นมิตร ในที่นี้คือความเป็นเพื่อน การวางตัวของเราแต่ละคนต้องวางตัวเสมอกันกับทุกคนไม่แสดงอาการหยิ่ง จองหอง การแสดงลักษณะ พฤติกรรมแบบนี้ จะไม่สร้างมิตรภาพเลย ดังนั้นเราต้องแสดงความเป็นมิตรกับทุกๆ คน และถ้าจะว่าไปแล้วทุกๆคนก็ต้องการเพื่อนไม่มีใครไม่ต้องการเพื่อน เพื่อนก็ควรกระทำสิ่งดีๆ ให้เพื่อนเช่นรู้จักช่วยเหลือเพื่อน ให้ข้อคิดหรือมีข้อแนะนำในสิ่งที่ดีๆ หากทำอย่างนี้ได้ และตัวเรามีความเป็นมิตรให้คนอื่น คนอื่นๆก็จะให้ความเป็นมิตรเราเช่นกัน ความเป็นมิตรเดินหาซื้อไม่ได้ถ้าอยากได้ความเป็นมิตรท่านต้องสร้างเอง ทำให้เพื่อนรู้ว่าท่านคือเพื่อนของเขา
6. เคารพความเป็นส่วนตัว ของเพื่อน ซึ่งมิตรภาพจะเกิดได้เมื่อท่านรู้จักเคารพเรื่องส่วนตัวของกันและกัน บางท่านสอดรู้สอดเห็นไปทุกเรื่องถามซอกแซก อยากรู้ไปซะทุกเรื่องทำให้คนอื่นอึดอัด มิตรภาพที่ดีเริ่มที่พอดีๆ เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นมากๆ อย่าถือวิสาสะมากจนเกินความพอดี ท่านอาจถูกตัดสัมพันธภาพได้หากเพื่อนรู้ว่าท่านรุกเขาคนเกินความพอดี
7. ศึกษานิสัยใจคอกันให้ดี มนุษย์มีความแตกต่างกัน หากเราจะสร้างมิตรภาพที่ดีกับใครเราต้องศึกษาพื้นฐานนิสัยโดย ทั่วๆไปของเพื่อนก่อนว่า เพื่อนมีลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อให้เรารู้จักที่จะถนอมน้ำใจเพื่อน อย่างน้อยควรรู้ว่าเพื่อนชอบและไม่ชอบอะไร อะไรควรทำและอะไร ไม่ควรทำมารยาทพื้นฐานทั่วๆไปเราก็ต้องมีด้วยไม่ใช่ทำอะไรหรือพูดอะไรตามใจฉันคนอื่นจะเป็นอย่างไรฉันไม่สนแบบนี้สัมพันธภาพสั่นคลอนแน่นอน
8. มีอารมณ์ขัน ตลก คุยเรื่องทั่วๆไปที่สังคมกำลังสนใจ บางทีการสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ก็สามารถสร้างได้ง่ายโดยนำเรื่องที่ผู้คนกำลังสนใจ มาเป็นประเด็นพูดคุย แต่อย่านำประเด็นร้อนทางการเมืองมาคุยกัน มิตรภาพอาจสั้นได้ และแทนที่จะสร้างมิตรอาจจะสร้างศัตรูโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ดังนั้นถ้าอยากสร้างมิตรภาพ เลือกหัวข้อสนทนาที่สนุก เบาสมอง และเป็นที่น่าสนใจของคนทั่วๆไป
9. มีกิริยามารยาทเรียบร้อย หรือสุภาพ “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” กลอนบทนี้ยังใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัย อย่าใช้คำพูดหยาบกับเพื่อน ยิ่งเป็นเพื่อนใหม่ที่กำลังสร้างมิตรภาพ ยิ่งไม่ได้จนกว่าจะสนิทกันและรู้จักนิสัยใจคอดีแล้ว แต่ก็ใช่ว่าคนที่สนิทกันจะสามารถใช้คำหยาบ เรียกคนแบบจิกหัวได้ คำพูดที่ใช้กับผู้คนควรสุภาพ กิริยามารยาทเรียบร้อย ไม่ใช่พูดคำเอามือจับตัวหรือตีไหล่ อย่างเป็นคนมือไม่อยู่สุข คุยก็คุยเฉยๆ มืออยู่กับลำตัวของตนเอง อย่าหยักไหล่ อย่ามีสองเสียง อย่ามองคนด้วยหางตา หรือลากเสียงยาว กิริยาเหล่านี้ทำให้มิตรภาพขาดลงได้ ดังนั้นหากจะสร้างมิตรภาพต้องระวังกิริยามารยาททั้งด้าน กาย วาจา ด้วย
10. อย่าโอ้อวดดีของตัวเองจนเพื่อนรู้สึกด้อย ถ้าจะสร้างมิตรภาพ ควรจะแสดงตัวธรรมดาๆ ที่คนทั่วไปเป็น ไม่ต้องอวดอ้างว่ามีญาติเป็นรัฐมนตรี มีเพื่อนเป็นผู้กำกับ มิตรภาพเกิดขึ้นเพราะตัวเราเองเท่านั้น คนจะคบเรามีสัมพันธภาพที่ดีก็เพราะตัวเราไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ของคนที่เอามาอ้าง
มิตรภาพทั้ง 10 ข้อ เป็นเพียงแนวทางที่ทำให้ท่านได้เพื่อน ยังมีแนวทางอื่นๆ อีกมากมายที่ท่านจะได้เพื่อนที่ดี มิตรภาพเป็นนามธรรม ที่เราแต่ละคนสามารถ สื่อได้ว่า เพื่อนคนไหนมีมิตรภาพที่ดีต่อเราและเพื่อนคนไหนที่สร้างมิตรภาพเพื่อหวังสิ่งตอบแทน มาสร้างมิตรภาพด้วยหัวใจ ใช้ใจสร้างมิตรภาพดีกว่าอยู่ยาวคะ