ตั๋วเครื่องบินอังกฤษราคาถูก
บริการจองตั๋วเครื่องบินอังกฤษออนไลน์ ให้บริการค้นหาตั๋วเครื่องบินอังกฤษราคาถูก และเปรียบเทียบตั๋วเครื่องบินทุกเส้นทาง
เราได้ร่วมงานกับ Jetradar บริษัทตัวแทนชั้นนำ บริการจองตั๋วเครื่องบินอังกฤษออนไลน์ เรายืนยันว่าลูกค้าจะได้รับราคาที่ดีที่สุด ด้วยระบบค้นหาเพื่อเปรียบเทียบราคา ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก กับตัวช่วยการค้นหาเที่ยวบิน เพื่อเปรียบเทียบราคาให้ง่ายต่อการตัดสินใจ
ค้นหาตั๋วเครื่องบินจากสายการบินและเว็บไซต์ท่องเที่ยวทั่วโลกเพื่อหาราคาดีที่สุด ให้คุณได้จองตั๋วเครื่องบินราคาถูกและไม่เสียค่าธรรมเนียม
ระบบค้นหาตั๋วเครื่องบินอังกฤษที่ถูกที่สุด
ระบบค้นหาจะแสดงราคาค่าตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษที่ดีที่สุดของแต่ละเดือนล่วงหน้าตามที่ตั้งค่าดังนี้สถานที่ เดินทางไป-กลับหรือไปเที่ยวเดียว ช่วงเวลาเดินทาง และบินตรงหรือไม่
ระบบค้นหาตั๋วเครื่องบินอังกฤษราคาถูกแบบเจาะจงเวลา
ระบบค้นหาโรงแรมห้องพักอังกฤษที่ถูกที่สุด
เปรียบเทียบราคาโรงแรมที่พักอังกฤษจากเอเจนซีต่างๆ และจองโดยเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุด! รวบรวมราคาจาก 50 เอเจนซีชั้นนำและเว็บไซต์ของโรงแรม เช่น agoda, booking.com คุณสามารถดูราคาทั้งหมดได้ที่นี่
ระบบค้นหารถเช่าอังกฤษที่ถูกที่สุด
ค้นหารถเช่าอังกฤษ เปรียบเทียบราคารถเช่าอังกฤษ จากบริษัทให้บริการเช่ารถชั้นนำ Avis Hertz Budget เพื่อให้ได้รถเช่าในราคาถูกและคุ้มที่สุด จุดมุ่งหมายของเรา คือ การให้แน่ใจว่า คุณจะเดินทางแบบความสะดวกสบายและ ในราคาที่เหมาะสม ด้วยยานพาหนะทันสมัยให้เลือก มีความพร้อม ที่จะรองรับ ความต้องการของลูกค้า ทั้งจุดส่งรถคนละที่กับจุดรับรถ
- การค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
- ขั้นตอนการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
- ข้อมูลทั่วไปอังกฤษ
JetRadar ไม่ได้ขายตั๋วเอง JetRadar เพียงแค่ให้บริการค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน JetRadar ไม่ได้ติดตามหรือเก็บข้อมูลของคุณ และก็ไม่มีการคิดค่านายหน้ากับผู้ใช้บริการแต่อย่างใด นั่นหมายความว่าราคาของตั๋วที่คุณเห็นในหน้าเว็บไซต์หรือแอพของ JetRadar นั้น JetRadar ไม่ได้มีการบวกเพิ่มราคาแต่อย่างใด ตอนนี้คุณอาจจะสงสัยว่าแล้ว JetRadar จะได้รายได้อย่างไร? JetRadar จะได้รับรายได้จากการจองตั๋วของคุณ โดยผู้ที่จ่ายให้กับ JetRadar คือสายการบินหรือทราเวลเอเจนซีเท่านั้น JetRadar ไม่ได้คิดค่านายหน้ากับผู้ใช้บริการ เพราะฉะนั้น คุณมั่นใจได้ว่าราคาตั๋วที่คุณเห็นเป็นราคาตั๋วที่ทางสายการบินหรือทราเวลเอเจนซีชาร์จ JetRadar ไม่ได้บวกเพิ่มอย่างแน่นอนค่ะ รู้อย่างนี้แล้ว มาลองใช้ JetRadar กันดีกว่าค่ะ เพื่อประหยัดเวลาและเงินในการค้นหา เปรียบเทียบ และจองตั๋วเครื่องบินค่ะ
การค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
- ซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ยิ่งซื้อล่วงหน้า ยิ่งประหยัด
JetRadar ได้เก็บสถิติจากการซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ของ JetRadar โดยมีจำนวนการซื้อตั๋วเครื่องบินทั้งหมดอยู่ที่ 2.5 ล้านใบสำหรับช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จากสถิติแสดงให้เห็นว่าตั๋วที่มีวันเดินทางตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์จะ มีราคาแพงที่สุด ส่วนตั๋วที่ถูกที่สุดจะมีวันที่ออกเดินทางตั้งแต่วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี ส่วนเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะซื้อตั๋วเป็นตอนเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็นหลัง เลิกงาน เนื่องจากช่วงเวลาทำงาน ทางเอเจนซี่ท่องเที่ยวและสายการบินจะทำการค้นหาข้อมูลเที่ยวบินจำนวนมาก อาจทำให้เที่ยวบินที่ราคาถูกที่สุดไม่ถูกแสดงให้เราเห็น และโดยปกติแล้ว ตั๋วจะราคาถูกที่สุด หากเราจอง 6 เดือนก่อนวันเดินทางค่ะ
ทำไม ราคาตั๋วเครื่องบินถึงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง? ที่ราคาขึ้นๆลงๆ นั้นเกี่ยวพันโดยตรงกับความต้องการของลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น เราจะแบ่งที่นั่งทั้งหมดบนเครื่องบินออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้เข้าใจโดยง่ายนะคะ กลุ่มที่ 1 ถูกปล่อยออกมาขายในราคา A หากมีความต้องการซื้ออยู่ในระดับสูง กลุ่มที่ 2 ที่ถูกปล่อยออกมาขายจะมีราคาสูงขึ้น แต่ถ้าหากความต้องการซื้อน้อยลงมากเนื่องจากราคาที่สูงขึ้น กลุ่มที่ 3 ที่จะถูกปล่อยออกมาขาย จะมีราคาถูกกว่ากลุ่มที่ 2 อย่างไรก็ตาม ในบางช่วงเวลา เช่นช่วงปีใหม่ ราคาจะยิ่งแพงขึ้น หากไม่จองตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากความต้องการซื้อตั๋วมีมาก แต่ถ้าหากจุดหมายปลายทางที่เราจะไปไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก โอกาสที่ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นนั้นมีน้อยมาก - ซื้อตั๋วตอนมีโปรโมชั่น
การ ซื้อตั๋วโปรโมชั่นก็เป็นอีกทางที่ทำให้เราได้ตั๋วราคาถูก แต่ส่วนใหญ่แล้วตั๋วโปรโมชั่นมักจะไม่ยืดหยุ่น เช่น ไม่สามารถเปลี่ยนวันเวลาได้ หรือถ้าเปลี่ยนได้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยน ซึ่งถ้าเกิดเรามีการเปลี่ยนแปลงวันเดินทางขึ้นมา เราอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนมากกว่าการซื้อตั๋วใหม่เลยก็ได้ วิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีการเดินทางที่แน่นอนแล้ว - เที่ยวบินต่อเครื่อง เชื่อมต่อเที่ยวบิน
วิธีนี้อาจไม่สะดวก เนื่องจากคุณต้องต่อเที่ยวบินเพื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่มันก็ทำให้คุณได้ตั๋วในราคาที่ถูกกว่าการบินตรงโดยไม่ต้องต่อเที่ยวบิน อาจถูกกว่ามากถึง 50% กันเลยทีเดียว เพียงแค่มีการเชื่อมต่อเที่ยวบินอย่างน้อย 1 เที่ยวขึ้นไป - เปรียบเทียบราคาตั๋วจากหลายๆเอเยนต์ และ สายการบิน
เดี๋ยวนี้เรามีเครื่องมือเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน หรือที่เรียกกันว่า flight meta search engine ซึ่งจะทำให้คุณสามารถค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินได้ เพียงแค่ใช้เครื่องมือนี้ ตั๋วเครื่องบินทั้งหมดรวมถึงตั๋วเครื่องบินของสายการบินต้นทุนต่ำ (Low-cost airlines) เช่น นกแอร์, แอร์เอเชีย, โอเรียลท์ไทยและไลอ้อนแอร์ จะถูกรวบรวมให้คุณไว้ในที่เดียว คุณไม่ต้องนั่งเปิดหลายๆเว็บไซต์เพื่อเปรียบเทียบราคาอีกต่อไป เพียงแค่คุณเข้าไปที่เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน แล้วใส่ข้อมูลการเดินทางของคุณ จากนั้นระบบจะทำการค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินให้คุณเอง โดยรวมตั๋วเครื่องบินทั้งหมด รวมถึงโปรโมชั่นตั๋วจากสายการบินและเอเจนซีต่างๆ จากนั้นคุณแค่เลือกเที่ยวบินที่คุณต้องการและจองผ่านเว็บไซต์ได้เลย เครื่องมือเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน (flight meta search engine) นี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วและคุณมั่นใจ ได้ว่าคุณจะได้ตั๋วราคาที่ถูกที่สุดจากสายการบินและเอเจนซี่ต่างๆ
ขั้นตอนการค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
การค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูก
- เลือกสถานที่ต้นทางที่ต้องการ ประเทศ เมือง (ระบบป้อนข้อมูลโดยอัตโนมัติ) เช่น
- เลือกสถานที่ปลายทางที่ต้องการ
- เลือกวันเวลาทเดินทาง และวันเวลากลับสำหรับเดินทางไปกลับ(Round Trip)
- เลือกจำนวนผู้โดยสารผู้ใหญ่ และเด็กหรือทารก
- เลือกชั้นประหยัด หรือชั้นธุรกิจ
- กด ค้นหา
เพียงแค่นี้ JetRadar ก็จะค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วให้คุณ
เลือกตั๋วเครื่องบินราคาถูก
- ระบบจะแสดงข้อมูลของเที่ยวบินทุกสายการบินทุกเส้นทางที่ว่าง พร้อมเรียงราคาต่ำสุดและรายละเอียด
- นำตัวเลือกทั้งหมดมาให้คุณ เรามีฟิวเตอร์ซึ่งเป็นเครื่องมือในการกรองตั๋วให้คุณ เพื่อให้คุณได้ตั๋วตามที่คุณต้องการ คุณสามารถเลือกเวลาเดินทาง เลือกสายการบินหรือทราเวลเอเจนซี่ที่คุณชื่นชอบ เลือกว่าจะต่อเที่ยวบินหรือไม่
- หลังจากที่คุณปรับฟิวเตอร์ตามที่คุณต้องการแล้ว ทีนี้คุณก็สามารถจองเที่ยวบินที่คุณต้องการเองได้ เพียงแค่คลิกปุ่ม “จองเดี๋ยวนี้” จากนั้น JetRadar จะนำคุณไปสู่เว็บไซต์สายการบินหรือทราเวลเอเจนซีโดยตรงเพื่อให้คุณทำการจอง ตั๋ว เพียงแค่นี้ คุณก็จะได้ตั๋วตามที่คุณต้องการแล้วค่ะ การเดินทางของคุณกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ข้อมูลอังกฤษทั่วไป
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป ธงประเทศอังกฤษ ชื่อทางการ สหราชอาณาจักรบริเทนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (The United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland) แบ่งออกเป็น 4 แคว้นใหญ่ คือ อังกฤษ เวลส์ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ
สภาพภูมิอากาศ
ประเทศอังกฤษเป็นเกาะ จัดอยู่ในประเภทค่อนข้างหนาวและมีความชื้นสูง อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในช่วงฤดูหนาวอยู่ที่ 2-4 องศาเซลเซียส และอยู่ระหว่าง 18-22 องศาเซลเซียสในช่วงฤดูร้อน แต่อากาศในประเทศอังกฤษนั้นมีความแปรปรวนได้ตลอดเวลา อาจมีทั้งหนาว ฝน และร้อน ในวันเดียวกันได้
ฤดูใบไม้ผลิ จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม
ฤดูร้อน จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน-เดือนพฤศจิกายน
ฤดูหนาว จะอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์
เวลา
สหราชอาณาจักร เป็นที่ตั้งของเส้นแบ่งเขตเวลาของโลก (GMT - Greenwich Mean Time) ดังนั้นประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันออก จึงมีเวลาที่เร็วกว่า โดยเร็วกว่าประมาณ 6 ชั่วโมง (ในช่วงปลายเดือนมีนาคม - ปลายเดือนตุลาคม) หรือ 7 ชั่วโมง (ในช่วงปลายเดือนตุลาคม- ปลายเดือนมีนาคม) ทั้งนี้ เนื่องจากสหราชอาณาจักร จะเปลี่ยนเวลา daylight saving จาก GMT ไปใช้ BST (British Summer Time) ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งหมายถึงการปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในช่วงปลายเดือนมีนาคม - ปลายเดือนตุลาคม
เชื้อชาติ
ประชากรประมาณ 64 ล้านคน ประกอบด้วย ชนชาติอังกฤษ สก็อต เวลส์ ไอริช ร้อยละ 85 เป็นชนเชื้อสายอังกฤษ และส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแคว้นอังกฤษ ที่เหลือ ร้อยละ 15 เป็นชนเชื้อสายต่างๆ และอาศัยอยู่ในแคว้นต่างๆ
ศาสนา
ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายอังกลิคัน (Anglican) ร้อยละ 72 ไม่นับถือศาสนาอะไรเลย ร้อยละ 14 และที่เหลือ นับถือศาสานาอิสลาม พุทธ ฮินดู ซิกซ์ ยูดาย และเชน
ภาษาราชการ
ภาษาอังกฤษ(English)
สกุลเงิน
สกุลเงินที่ใช้ในอังกฤษคือ ปอนด์สเตอร์ลิง (Pound sterling) GBP ซึ่งเป็นหน่วยเงินประจำประเทศค่ะ ส่วนสกุลเงินแบ่งออกเป็น ธนบัตรมีทั้งหมด 4 ชนิด คือ ธนบัตรใบละ 5, 10, 20 และ 50 ส่วนเหรียญแบ่งออกเป็น 8 ชนิด คือ 1 และ 2 ปอนด์ และ 1, 2, 5, 10, 20 และ 50 เพนนีค่ะ โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนต่อเงินบาทไทยอยู่ที่ประมาณ 47.50 บาท ต่อ 1 ปอนด์
ระบบไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศ คือ ระบบ 230 V. AC 50 Hz แต่จะใช้ปลั๊กไฟสามขา ซึ่งต่างจากประเทศไทย ดังนั้น ตัวอย่างปลั๊ก ประเทศอังกฤษหากต้องการนำอุปกรณ์ไฟฟ้าไปด้วยควรจะเตรียมปลั๊กไฟฟ้าสามขาไปด้วย หรืออาจจะไปขอยืมจากทางที่พักในอังกฤษก็ได้
โทรศัพท์
ปัจจุบันนั้นสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวก รวดเร็วและถูก น้องสามารถโทรศัพท์กลับบ้านเราได้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณ ซึ่งมีทั้งแบบหยอดเหรียญ และแบบใช้บัตร โดยมีทั้งแบบที่ใช้บัตรโทรศัพท์และบัตรเครดิต บัตรโทรศัพท์สามารถซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ไปรษณีย์ ราคามีตั้งแต่ 2 ปอนด์ 5 ปอนด์ 10 ปอนด์ และ 20 ปอนด์ และหากต้องการโทรศัพท์ระหว่างประเทศในราคาถูก ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากร้านค้า หรือใช้บริการ Swiftcall ก็ได้ โดยการขอซื้อรหัสที่เรียกว่า Pin ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายหนังสือพิมพ์ทั่วไป สำหรับน้อง ๆ ที่ไปเรียนในระยะยาวอาจจะซื้อโทรศัพท์มือถือใช้ก็ได้ ซึ่งราคาและรูปแบบการให้บริการจะใกล้เคียงกับบ้านเราคะ หรืออาจจะเอาโทรศัพท์มือถือมาจากบ้านเราก็ได้คะ แล้วไปหาซื้อ sim ที่นั่นส่วนรหัสประเทศอังกฤษสำหรับโทรจากเมืองไทยไปนั้น ต้องกด +44 แล้วตามด้วยเบอร์เมืองและหมายเลขโทรศัพท์ปลายทาง
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- Buckingham Palace เป็น พระราชวังที่สำคัญของอังกฤษที่สามารถเปิดให้คนเข้าชมได้ ซึ่งภายในพระราชวังจะมีห้องต่างๆ ที่น่าสนใจที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี อาทิ ห้องบังลังก์ของกษัตริย์ ห้องแกลลอรี่ ห้องเสวยพระกระยาหาร ซึ่งห้องต่างๆ เหล่านี้ ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามและอลังการ นอกจากนี้ ภายในพระราชวังยังมีสวนที่ได้รับการตกแต่งอย่างดี เหมาะแก่การเดินชมวิวเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญ คือ การผลัดเปลี่ยนเวร(Changing the Guard) การผลัดเปลี่ยนเวรจะมีขึ้นที่บริเวณ พระราชวังบักกิ้งแฮม โดยจะเริ่มแสดงเวลา 11.30 น . และจะใช้เวลาแสดงทั้งหมด 40 นาที แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ในวันที่มีเหตุการณ์สำคัญของเมือง การผลัดเปลี่ยนเวรอาจจะงดได้ในวันที่ฝนตก
- Bigben บิ๊กเบน ตึกสภา เวสต์มินสเตอร์ ทั้งหมดคือ สัญลักษณ์ของลอนดอนที่ไม่เคยเสื่อมความสำคัญ ตัวบิ๊กเบนและอาคารรัฐสภาตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ ขณะนี้กำลังขัดสีฉวีวรรณเป็นการใหญ่จึงเห็นเป็นสีทองอร่าม ไม่ดำหม่นมัวด้วยคราบเขม่าควันและการเวลาเหมือนในอดีต มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์กำลังซ่อมแซมเช่นกัน เหมือนกับสะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ในบริเวณใกล้เคียงที่ทำให้การเดินข้ามถนนไปมา ของนักท่องเที่ยวออกจะ ลำบากไม่ใช่น้อยเลย
- London Eye บริติช แอร์เวยส์ ลอนดอน อาย (British Airways London Eye) กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษไปซะแล้ว สำหรับบริติช แอร์เวยส์ ลอนดอน อาย ที่สร้างขึ้นเพื่อรับปี สหัสวรรษ 2000 โดยสายการบินบริติช บริติช แอร์เวยส์ ลอนดอน อาย เป็นจุดชมวิว ที่มีลักษณะเป็นกงล้อหมุน มีความสูง 135 เมตร จุดชมวิวนี้ สร้างขึ้นภายใต้แนวความคิด อากาศ น้ำ พื้นโลก และเวลา
- สะพานทาวเวอร์ (Tower Bridge) สร้าง ขึ้นเหนือแม่น้ำเทมส์ โดยสะพานแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิว ที่มีความสูงถึง 140 ฟุต เท่านั้น แต่ภายในของฐานสะพาน ที่ถูกสร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นหอสูง ยังเป็นที่ที่จัดนิทรรศการ เกี่ยวกับประเทศอังกฤษ จนถึงมีจัดแสดงห้องอบไอน้ำสมัยวิกตอเรียนด้วย
- London Chaina Town ( SOHO ) เป็น อีกสถานที่หนึ่งที่ คนไทยในลอนดอนชอบไปเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า อาหารจีนเป็นอาหารที่คนไทยชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาอย่างยิ่งมากกว่า อาหารฝรั่ง เบอร์เกอร์ แซนวิชเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้ง ยังมี ซุปเปอร์มาเก็ตของคนจีน ที่นำเข้า ของชำ ทั้ง ผัก ผลไม้ ม่าม่า และ ซอสปรุงอาหาร แม้กระทั่ง ปลาร้า ก็มี ที่นำเข้ามาจากเมืองไทยทุกวันสดมาก เป็นที่ ๆ นักเรียนไทยในลอนดอนรู้จักกันดี ดูที่ร้านแดงด้านขวามือสุดสิ นั่นแหละ ซุปเปอร์มาร์คเก็ตจีน ชื่อ LOON MOON ที่มีของชำจากเมืองไทยเพียบ อยู่ใจกลาง โซโฮ เลยละ
- Harrods ห้าง แฮร็อดส์ (Harrods) อภิมหาเศรษฐีชาวอังกฤษชื่อ อัลฟาเยด เป็นเจ้าของกิจการตั้งอยู่บนบรอมตันแถวๆย่าน " ไนท์บริดจ์ "(Knightsbridge) ที่ห้างแฮร็อดส์มีของขายมากมายกว่า 300 แผนก อยากจะได้อะไรข้างในมีหมด เพียงแต่ว่าจะตัดสินใจซื้อกันหรือเปล่าเทานั้น เพราะราคาข้าวของแต่ล่ะอย่างแพงหูฉี่ ในห้างมีร้านโดนัทชื่อดังอันดับ 1 ใน 10 ของโลกคือ Krispy Kream อร่อยมากขอรับประกันคุณภาพหากหาซื้ออะไรไม่ได้ ซื้อถุงก๊อปแก๊ปของห้างมาเป็นที่ระลึกก็ยังดี
- Oxford Street แหล่ง ชอปปิ้ง อีกแห่งที่ไม่น่าที่จะพลาดคือ อ๊อกฟอร์ดสตรีท มีความยาวถึง 1 ไมล์ (1.6 กม .) ทั้งสองฟากฝั่งถนนอุดมไปด้วยร้านค้านานาชนิด ที่เห็นใหญ่โตมโหฬารที่สุดในย่านนี้ก็คงจะเป็นห้างที่มีชื่อว่าเซลฟริดเสจ (Selfridges) ซึ่งมีของขายตั่งแต่เครื่องใช้ในบ้าน ฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าเครื่องสำอาง เครื่องแก้ว ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าแบรนเนม ซึ่งเป็นอีกแหล่งชอปปิ้ง ที่ทุก ๆ คนประทับใจมาก
- มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เป็นปราสาทแบบนอร์มันในเมืองเดอแรม มณฑลเดอแรม สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ตรงข้ามกับโบสถ์เดอแรม บนยอดเนินเขาเหนือแม่น้ำแวร์บนคาบสมุทรเดอแรม
- stonehenge สโตนเฮนจ์ (อังกฤษ: Stonehenge) เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทุ่งราบกว้างใหญ่ในบริเวณที่เรียกว่าที่ราบซอลส์บรี (Salisbury Plain) ในบริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ประกอบไปด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง แท่งหินบางอันตั้งขึ้น บางอันอยู่ในแนวนอน และบางอันก็ถูกวางซ้อนขึ้นไปข้างบน สโตนเฮนจ์มีชื่อเสียงอย่างมากในฐานะที่เป็นกลุ่มหินประหลาดซึ่งไม่มีใคร ทราบวัตถุประสงค์ในการสร้างอย่างชัดเจน และเมื่อพิจารณาถึงอายุของมันแล้ว คาดว่ากลุ่มกองหินประหลาดนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ต่าง สงสัยว่า คนในสมัยก่อนสามารถยกแท่งหินที่มีน้ำหนักกว่า 30 ตัน ขึ้นไปวางเรียงกันได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ปราศจากเครื่องทุ่นแรงอย่างที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน และที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ ในบริเวณที่ราบดังกล่าว ไม่ใช่บริเวณที่จะมีก้อนหินขนาดมหึมานี้ ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่าผู้สร้างต้องทำการชักลากแท่งหินยักษ์ทั้งหมด มาจากที่อื่น ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากบริเวณที่เรียกว่า "ทุ่งมาร์ลโบโร" ที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 40 กิโลเมตรเลยทีเดียว
- มหาวิหารบาท ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 และยังคงตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ก็เป็นอีกสถานที่สำคัญในเมืองนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มหาวิหารแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิหารกอธิกที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ และยังเชื่อกันอีกว่าลักษณะสถาปัตยกรรมแบบกอธิกภายในมีความสวยงามที่สุดในทวีปยุโรป ลักษณะเด่นภายในซึ่งมีอยู่ 3 ตำแหน่ง ซึ่งว่ากันว่าเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดโดยเด็ดขาด หลังคาพัดภายในมหาวิหารบาท ตำแหน่งแรกก็คือ เพดาน ที่มีชื่อเรียกว่า “เพดานพัด (Fan Vault)” โดยเพดานพัดนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิกซึ่งลักษณะสันของเพดานแยกออกไปเป็นแฉกคล้ายรูปพัด และต้องบอกว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเฉพาะในประเทศอังกฤษเท่านั้น ตำแหน่งต่อมาก็คือ หน้าต่าง ที่มีลักษณะของงาน “กระจกสี (Stained Glass)” ซึ่งได้มีการนำกระจกสีมาตกแต่งหน้าต่างของมหาวิหาร และยามที่แสงแดดสาดส่องลงมาจะมีความสวยงามเป็นอย่างมาก และในตำแหน่งสุดท้ายก็คือ ผนังของมหาวิหารที่เต็มไปด้วยสุสาน โดยเชื่อกันว่าที่มหาวิหารแห่งนี้มีสุสานมากที่สุดในอังกฤษ
- ปราสาทเดอแรม (Durham Castle) โบสถ์ยิวแห่งนี้เป็นโบสถ์ที่มีความใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจาก โบสถ์ยิวในนครนิวยอร์ค โถงโบสถ์มีทางเดินจากประตูสู่แท่นพิธี (Nave) ถึง 3 ทางด้วยกัน โดยปฏิบัติตามธรรมเนียมของนิกาย ออโธดอกซ์ ในการแยกที่นั่งสำหรับชาย และหญิง ซึ่งสามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ถึง 3000 คน และยังเป็นศูนย์รวมของชุมชนชาวยิวในนครบูดาเปสต์ อีกทั้งงานเทศกาลต่างๆ ก็ยังมีการจัดที่นี้อีกด้วย ภายในโบสถ์ยังมีพิพิธภัณฑ์ของชาวยิวอีกด้วย ปราสาทนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เพื่อปกป้องบิชอปแห่งเดอแรมจากการถูกโจมตี เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทแบบ mott and bailey ที่ได้รับอิทธิพลของนอร์มัน ปราสาทนี้ห้องโถงขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นบิชอปแอนโทนี เบค เมื่อต้นศตวรรษที่ 14 เคยเป็นห้องโถงในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในเกาะบริเตน จนกระทั่งบิชอปริชาร์ด ฟอกซ์ ปรับขนาดห้องโถงให้เล็กลงเมื่อสิ้นศตวรรษที่ 15 ห้องโถงปัจจุบันมีความสูง 14 เมตร และยาวมากกว่า 30 เมตร ปราสาทเดอแรมและมหาวิหารเดอแรมได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ข้อความจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรถึงเหตุผลของการเสนอชื่อปราสาทเข้ารับเลือกมีดังนี้ ในอังกฤษมีอาคารเพียงไม่กี่หลังที่สามารถยืนหยัดฝ่ากระแสความเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ได้ยาวนานกว่าปราสาทเดอแรม หลังจากการพิชิตนอร์มัน ปราสาทถูกบูรณะ ต่อเติม และปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ตามสถานการณ์มาตลอดระยะเวลากว่า 900 ปี