ความรู้คุณค่าในตัวเอง Self Esteem

Self Esteem ความรู้คุณค่าในตัวเอง

คำนี้ยังไม่มีคำแปลสำหรับภาษาไทย หรืออาจจะมีแต่ผู้เขียนไม่ทราบ นักการศึกษา ผู้ปกครอง นักธุรกิจ ตลอดจนรัฐบาล กำลังมุ่งสร้าง ประชาชนให้มี self-esteemสูง ซึ่งหมายถึง บุคคลที่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง มีความซื่อสัตย์ มีความภูมิใจในผลสำเร็จ ของงาน บุคคลซึ่งมีความคิดริเริ่ม และมีความมุ่งมั่น ที่จะแก้ปัญหา และรับผิดชอบปัญหา ที่จะเกิดตามมา เป็นคนที่คนอื่นรัก และรักคนอื่น เป็นบุคคลที่สามารถควบคุมตัวเอง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของงาน โดยสรุปแล้วคนที่มี self-esteem สูง จะหมายถึงคนที่มีความคิด สร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบสูง และซื่อสัตย์

ตรงกันข้ามกับคนที่มี self-esteem ต่ำหรือพฤติกรรมป้องกัน (defensive) คนกลุ่มนี้มักจะต้องการ พิสูจญ์ตัวเอง หรือวิจารณ์คนอื่น ใช้คนอื่น เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง บางคนอาจจะหยิ่ง หรือดูถูกผู้อื่น มักจะไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจว่าตัวเอง จะมีคุณค่า หรือความสามารถ หรือการยอมรับ ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่กล้าที่จะทำอะไร เนื่องจากกลัว ความล้มเหลว คนกลุ่มนี้มักจะวิจารณ์คนอื่น มากกว่าที่จะกระทำ ด้วยตัวเอง และยังพบอีกว่า คนกลุ่มนี้มักจะ ชอบความรุนแรง ติดสุรา ยาเสพติด มีเพศสัมพันธุ์ก่อนวัย

คนที่มี self-esteem จะต้องมีความสมดุลของความต้องการผลสำเร็จ หรืออำนาจ และความรู้จักคุณค่า ความมีเกียรติ และความซื่อสัตย์ ซึ่งอาจจะหมายถึง จิตใต้สำนึก และพฤติกรรมนั่นเอง จิตใต้สำนึกของคนที่มี self-esteem จะต้องรู้จักบาป บุญคุณโทษ รู้สิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี ความสื่อสัตย์ ความมีเกียรติ ส่วนพฤติกรรมของ self-esteem มีความสามารถที่จะคิดแก้ปัญหา เชื่อมั่นในความคิด และความสามารถ ของตัวเอง สามารถเลือกวิธีการตัดสินใจที่ถูกต้อง หากสูญเสียความสมดุลก็จะทำให้เกิดปัญหา เช่น หากจิตใต้สำนึกไม่แข็งแรง หรือสมบูรณ์พอ ก็จะทำให้คนเกิด พฤติกรรมเชื่อมั่นตัวเอง มากเกินไป หยิ่งยโส ดูถูกคนอื่น หากแต่มีแต่จิตใต้สำนึกที่ดี แต่ไม่มีความมุ่งมั่น ที่จะ ประสบผลสำเร็จชีวิต ก็อาจจะไม่ถึงเป้าหมาย ดังนั้นบุคคลที่ชอบพูดถึงแต่ตัวเอง อวดดี ดูถูกคนอื่น คนพาล ชอบเอาเปรียบคนอื่น คนที่กล่าวโทษคนอื่นไม่ถือว่า มี self-esteem

Self-esteem ประกอบด้วย ความตระหนักถึงคุณค่าตนเอง (Self-respect) และ ความเชื่อมั่นในความสามารถตนเอง(Self-efficacy) จนกลายเป็น ภาพแห่งตน (Self-image)

Self-esteem
ความตระหนักถึงคุณค่าตนเอง (Self-respect) ความเชื่อมั่นในความสามารถตนเอง(Self-efficacy)
ความเชื่อว่า ตนเองมีคุณค่า มีความหมาย มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมผู้อื่น มีสิทธิ มีโอกาสที่จะสำเร็จ ได้รับสิ่งที่มุ่งหวัง มีสุขได้ เช่นเดียวกับผู้อื่น ชีวิตมีค่า สมควรได้รับการดูแลปกป้องให้ดี การได้รับการยอมรับจากคนอื่น
ความเชื่อว่า ตนเองสามารถ คิด เข้าใจ เรียนรู้ ตัดสินใจในการแก้ปัญหา การเผชิญหน้ากับความท้าทาย หรืออุปสรรคต่างๆ ในชีวิตได้ ไว้วางใจตนเอง ว่ามีความสามารถ มีพลัง มีประสิทธิภาพ และพึ่งพาตนเองได้
ภาพแห่งตน (Self-image)
ภาพที่เรามองตนเอง (Self-image) ภาพแรก ในอุดมคติ ที่ฝันอยากจะเป็น
ภาพสอง เป็นภาพแห่งความจริง
ความแตกต่างระหว่างความฝันกับความจริง(Gap) ใกล้เคียง ข้าเก่ง นับถือตัวเองสูง
แตกต่าง ข้าแย่ ภาคภูมิใจต่ำ ไร้ค่า นับถือตนเองต่ำ
เรามองตนเองเป็นใครอย่างไร และคิดหรือเชื่อหรือมีทัศนคติเกี่ยวกับตนเองอย่างไร เราก็ทำเป็นประจำ บ่อยๆ จนเราเป็นภาพอย่างนั้น
ภาพของเราเป็นอย่างไร
ทางกาย ทางวาจา และทางใจ ที่แสดงออกมา
จุดแข็งจุดอ่อน(S&W) ความเป็นไปได้และข้อจำกัด(O&T) ของตนเอง
ภาพบวก หรือภาพลบ กับตนเอง

 

การสร้างภาพแห่งตน
ปฏิกิริยาที่ผู้อื่นมีต่อเรา แล้วเราก็สร้าง ภาพตนเองขึ้นมา
ภาพของเราเป็นอย่างไร

หากดี ...ภูมิใจ เชื่อถือตนเอง
หากไม่ดี ...ดูตนเองไร้ค่า
ถูกชมว่าดีอยู่เรื่อยๆ --> ภาพแห่งตน ดี น่ารัก ฉลาด
ถูกด่าบ่อยๆ-->ภาพแห่งตน ไม่ดี ไม่น่ารัก โง่ ไม่เข้าท่า
ภาพจะถูกสะสมทุกๆวัน--> สะสมข้อมูลตนเองและโลกรอบตัวลงในดวงจิตของตนเอง-->
กลายเป็นทัศนคติและความเชื่อตนเอง-->

คนที่มี self-esteem มักจะประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้

1. มองโลกในแง่ดีเสมอ มองวิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อมีมืดต้องมีสว่าง มีร้ายต้องมีดี ขาวคู่กับดำ
2. ประเมินตัวเราให้มีคุณค่าอยู่เสมอ
3. เชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง
4. มองว่าตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและเราสามารถเปลี่ยนแปลงตามที่เราต้องการ

ผู้ที่ไม่รู้คุณค่าตัวเองไม่มีความมั่นใจจะไม่มีความหวัง ไม่มีพลังในการต่อสู้ในที่สุดจะเป็นคนที่ซึมเศร้า

การสร้างความมั่นใจในตัวเอง self-esteem

ความเชื่อมั่นตนเองและรู้คุณค่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิต ลำพังความคิดอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความมั่นใจในตัวเองได้ ความมั่นใจจะเริ่มสร้างตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเราตาย ความมั่นใจจะกระทบต่อการตัดสินใจดังนั้นทุกคนความสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างของความมั่นใจเช่นหากคนจะเปลี่ยนอาชีพเขาจะต้องมั่นใจในตัวเองหรือมีคนอื่นเห็นถึงความสามารถของเขาที่จะทำให้ให้สำเร็จ เมื่อมีความผิดหวังหรือความเครียดความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองจะช่วยให้แก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านไปด้วยดี

  • ครอบครัวซึ่งมีความมั่นใจหรือเชื่อมั่นในตัวเองสูงความมั่นใจของลูกก็จะสูง
  • การพัฒนาความมั่นใจของเด็กจะเกิดขึ้นได้เมื่อเด็กได้เล่นกับเพื่อน
  • ผู้ที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ทำร้ายตัวเอง ไม่ดื่มสุราหรือติดยาเสพติด
  • เด็กหญิงวัยรุ่นที่มีความมั่นใจสูงมักจะไม่ประพฤติผิดประเพณี
  • ความมั่นใจเป็นลักษณะของแต่ละคนไม่สามารถที่จะให้กันได้แต่สามารถฝึกฝนได้

ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ คนที่มีความมั่นใจและมีความสามารถในการตัดสินใจ ความคิดริเริ่มใหม่ๆการปฏิบัติงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่น เพื่อให้เข้าใจเหมือนกัน คนเช่นนี้จึงจะอยู่รอดในสังคม

เหตุปัจจัย Self-Esteem สูง Self-Esteem ต่ำ
ปัจจัยภายใน หน้าตาดี พื้นฐานอารมณ์หนักแน่น พิการ เจ็บป่วยบ่อย ประสบการณ์ล้มเหลวบ่อย
ปัจจัยภายนอก ครูชม เพื่อนเล่นด้วย นายชอบ ครูด่า แม่ด่า เพื่อนไม่คบ
ความสัมพันธ์ เป็นส่วนหนึ่ง เข้าร่วม กลุ่มยอมรับ ครอบครัวกลมเกลียว
เพื่อนไม่ยอมให้เข้ากลุ่ม เข้ากับพี่น้องไม่ได้ พ่อแม่ขัดแย้ง แม่ขี้บ่น

ประสบการณ์สำเร็จ

ทำงานสำเร็จ >ผู้อื่นเห็นคุณค่า >รู้สึกตนเองมีค่า >สร้างคุณค่าและความหวัง >พยายามมากขึ้น

ล้มเหลว >ปฏิกิริยาเชิงลบจากผู้อื่น >รู้สึกไร้ค่า >ขาดแรงจูงใจและไม่อยากพยายาม

เรามาเสริมสร้าง self-esteem เพื่อที่จะเป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูง Peak Performance

  • หาเวลาสักหนึ่งชั่วโมงในตอนเช้าเพื่อพัฒนาตัวเอง อาจจะเป็นการนั่งสมาธิ หรือการพิจารณาตัวเอง หรือ่านหนังสือที่สร้างความเชื่อมั่น หรือฟังเทปคำสอนต่างๆ การเริ่มต้นที่ดีจะทำให้เกิดความมั่นในและประสบผลสำเร็จ
  • มองปัญหาและมองโลกในแง่ดี เลิกบ่นสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ลองหากระดาษสักแผ่นจดความคิดที่ดีๆเกี่ยวกับตัวเองไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจดสิ่งที่ไม่ดีแล้วมาวิเคราะห์ ว่ามีสิ่งไม่ดีหรือสิ่งที่ดีมากว่ากัน หานามบัตรจดสิ่งที่ดีหรือคำขวัญที่ดีไว้กระตุ้นเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา
  • ทำบ้านให้ปราศจากความวุ่นวาย ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือคุยกับเพื่อนที่สนิท
  • หาวันละ 10 นาทีเพื่อพิจารณาจุดยืนของตัวเอง สิ่งที่สำคัญของชีวิตคืออะไร เราบรรลุหรือยัง เราเดินผิดแนวทางหรือไม่
  • คนกับคนที่มองโลกในแง่ดีหรือคนที่มี self-esteem เพราะเพื่อนจะกระตุ้นให้เรามีความมั่นใจและความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามหากคบคนที่มองโลกในแง่ร้ายจะทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย ความมั่นใจก็จะสูญเสียไปด้วยดังนั้นเลิกคบกับคนที่มองโลกแง่ร้าย
  • ให้เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น เพราะเราต้องยอมรับว่าคนเราไม่สมบูรณ์ 100%ทุกคน หากเราเปรียบเทียบกับคนอื่นจะทำให้เกิดปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมากมาย
  • ให้หาคนที่จะเป็นต้นแบบเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต
  • ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และมุ่งสู่ความสำเร็จนั้น
  • หาผู้ที่คอยช่วยเหลือด้านทักษะและทัศนะคติในการดำรงชีวิตหรือการงาน
  • หากมีคนชมหรือกล่าวโทษให้กล่าวคำว่าขอบคุณ
  • อย่าดูถูกตัวเองหรืออย่ามองว่าตัวเองไม่มีความสามารถ หากเราคอยตอกย้ำถึงจุดด้อยของเรา เราจะไม่มีทางประสบผลสำเร็จ
  • ให้เพิ่มทักษะหรือคุณภาพชีวิตจากการทำงาน การอ่านหนังสือ หรือจากสื่ออื่นๆ
  • ให้จดสิ่งที่ดีเกี่ยวกับตัวคุณ เช่นความซื่อสัตย์ ความคิดริเริ่ม ความมุ่งมั่น ความเอื้ออาธร เป็นต้น ให้อ่านสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ
  • จดผลงานที่คุณชื่นชมหรือประสบผลสำเร็จสัก 10 อย่าง เช่นการศึกษา ผลการศึกษา การได้รับรางวัล การช่วยเหลือผู้อื่น
  • จดคำขวัญไว้ในที่เห็นชัดและนำมาท่องเมื่อมีโอกาส เช่น ผมยอมรับความสามารถตัวเอง ผมเป็นคนลิขิตชะตาชีวิตของผมเอง หนูภูมิใจและเชื่อมั่นในตัวเอง
กระบวนการเรียนรู้ จากการเติบโตมากับ. ผลลัพธ์นี้ เขาจะเป็นคนที่...
คำตำหนิ
ความเฉยเมย
ความอับอาย
ความกลัว
กำลังใจ
คำยกย่องชมเชย
การยอมรับนับถือ
ความรัก
ความมั่นคงปลอดภัย
ความสงบ
สงสัยตนเอง
รู้สึกไร้ค่า
รู้สึกผิด
วิตกกังวล
มีความเชื่อมั่น
เห็นคุณค่าของตนเอง
ยอมรับนับถือตนเอง
รักตนเองและผู้อื่น
รู้สึกว่าโลกนี้เป็นที่น่าอยู่
มีสันติสุขในจิตใจ

Self Esteem กับวิถีชีวิต

Self Esteem กับวิถีชีวิต
วิถีชีวิต Self-Esteem สูง Self-Esteem ต่ำ
การมองตน น่ารัก ภูมิใจ เปิดเผย กล้าหาญ ซื่อสัตย์ ไม่น่ารัก ไม่มีคนรักเลย ตนไร้คุณค่า ไม่ภาคภูมิใจ
อารมณ์ หนักแน่น มั่นคง อ่อนโยน รับฟัง ใจกว้าง หงุดหงิด ขี้โกรธ รุนแรง สงสัยคำชม
การเคารพสิทธิของตนเอง ให้เกียรติ ปกป้องสิทธิ ทำร้ายคนอื่น ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ ไม่กล้าตัดสินใจ
การปรับตัว ปรับตัวเร็ว ไม่เครียด มองปัญหาเป็นสิ่งท้าทาย กังวล ปรับตัวยาก การเรียนรู้แย่
ความสัมพันธ์กับผู้อื่น ยอมรับ ยุติธรรม ใจกว้าง ร่วมมือ จริงใจ ซื่อสัตย์ อ้อมค้อม กังวล ขี้อิจฉา ใจแคบ
ความกลัวถูกปฏิเสธ ไม่กลัวถูกปฏิเสธ กลัวถูกปฏิเสธ ดิ้นรน อวดร่ำอวดรวย หาความรักแบบแปลกๆ
บุคคลิกภายนอก สุข มั่นคง มีพลัง หน้าผ่อนคลาย แจ่มใส มีชีวิตชีวา สง่างาม ไหล่ตั้ง เสียงหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ เครียด กัวล เศร้าสร้อย หลังงุ้ม ไหล่ห่อ คอตก เสียงเบาและไม่ชัดเจน หงุดหงิด วิตก
วงจรที่ไม่สิ้นสุด คิดและทำ สิ่งดีๆ อย่างต่อเนื่อง วิธีคิด พฤติกรรม ทำสิ่งไร้คุณค่า ทำตนเองให้ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เช่นการยอมให้เอาเปรียบ
ปัญหาสุขภาพจิต มีความสุข สุขภาพจิตดี มีกำลังใจ มั่นใจ ภาคภูมิใจ พึงพอใจตนเอง พอใจในงาน เศร้าใจ ท้อแท้ สิ้นหวัง หมดกำลังใจ ปั่นป่วนทางอารมณ์ สุขภาพจิตเสื่อม มองตนเองไร้ความสามารถ ทำร้ายผู้อื่น มักฆ่าตัวตาย

Self-Esteem กับ พฤติกรรมความสำเร็จ

พฤติกรรมความสำเร็จ Self-Esteem สูง Self-Esteem ต่ำ
แรงจูงใจและความกระตือรื้อร้น กระตือรือร้น ต้อนรับความท้าทาย แสวงโอกาส ใช้โอกาส มีแรงจูงใจ มีพลัง มีเป้าหมาย หลีกเลี่ยง ไม่มั่นใจ อยู่จำเจ ไม้กล้าเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า ไม่รู้จะเรียนไปทำไม ขาดความรับผิดชอบ เฉื่อยชา ขออยู่ไปวันๆ
ความอยากเรียนรู้ อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ใจกว้าง รับฟัง รู้สึกดีที่ได้เรียนรู้ ไม่อยากเรียนรู้
ความพยายาม พยายามสูง เชื่อว่าตนเองทำได้ แล้วแต่เหตุการณ์จะพาไป ดูถูกตนเอง ไม่เชื่อตัวเองว่าจะทำได้
ความกล้าหาญ กล้า ไม่กลัวความล้มเหลว ยืนยันความคิดตนเอง แม้ว่าจะแตกต่างจากคนอื่น ใช้ศักยภาพตนเองเต็มที่ ประสบความสำเร็จได้ง่าย ขี้กลัว หลีกเลี่ยงสิ่งแปลกใหม่ กลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก ไม่กล้าคิดแตกต่างไปจากคนอื่น ปราศจากความคิดสร้างสรรค์
ความคาดหวังในตนเอง คิดเชิงบวกคาดว่าประสบความสำเร็จ สร้างสรรสิ่งใหม่ มีแรงผลักดัน มีความสุข กระตือรื้อร้น ไม่คาดหวัง เฉื่อยชา ล้มเหลว บางคนคาดหวังเกินตัวจนเป็นไปไม่ได้ บางทีก้ต่ำเกินไป เสี่ยงต่อความล้มเหลว
ล้มแล้วลุกได้เร็ว ปรับตัวได้เร็ว มีพลังที่จะชนะความยากลำบากได้ ล้มแล้วลุกได้เร็ว ล้มเหลวนิดเดียวก็ล้มเหลวไปทั้งชีวิต ซึมเศร้า พลาดวิชาเดียว ก็พังไปทุกวิชา
ความอดทน อดทนสูง พยายามทำงานให้สำเร็จ ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ล้มเลิกง่าย ยอมแพ้ง่าย โอกาสสำเร็จน้อย

Self-Esteem กับผู้อื่น
  • แสดงความยอมรับนับถือต่อเขา
  • ปฏิบัติต่อเขาด้วยเหตุผล เสมอต้นเสมอปลาย ไม่ใช่ขึ้นๆลงๆ
  • สร้างกฎระเบียบที่มีเหตุผลน่านับถือ และชัดเจน
  • คาดหวังต่อเขาตามที่ความเหมาะสม ไม่มากไปหรือน้อยไป
  • ไม่ทำให้เขาได้อับอาย หรือไปดูหมิ่นดูแคลนเขา
  • ไม่ใช้อำนาจเข้าควบคุมอย่างไร้เหตุผล หรือมีเหตุผลแบบข้างๆ คูๆ
  • เชื่อมั่นในความดีของเขาในด้านศักยภาพและความสามารถที่เขามี
  • จงให้ความรักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ว่าต้องทำอย่างซิจึงจะรัก
  • เขาต้องไม่ถูกลงโทษ ในสิ่งที่เราเคยบอกว่าเป็นสิ่งดี
  • สอนเขาอย่างไร ก็จะทำตามที่เคยสอน
  • ให้รางวัลเขาเมื่อเขาทำความดี
  • รับฟังเขาด้วยความตั้งใจ โดยไม่โต้เถียง ไม่ตำหนิ และการรับฟังก็ไม่ใช่ว่าเป็นการยอมรับที่เขาทำ
  • ยอมรับความรู้สึกของเขา ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์บวกหรือลบ
  • กระตุ้นให้เขาคิดและตัดสินใจเอง ไม่พยายามควบคุมเขาให้คิดหรือรู้สึกตามที่เราต้องการ
  • มองเขาเป็นคน ไม่ใช่วัตถุชิ้นหนึ่ง ที่ไร้ความหมาย
  • นับถือความเป็นส่วนตัวของเขา
  • สอนให้เขามีความพึงพอใจในตนเอง ยอมรับรูปร่างหน้าตาตนเอง
  • ทำให้เขารู้สึกว่าเราพอใจเขา ไม่ใช่เสียใจที่มีเขา
  • ฝึกให้เขาค้นหามองสิ่งดีๆ ของเขา แทนที่มัวแต่ค้นหาจุดด้อยของตนเอง
  • บอกให้เขาทราบว่า ชีวิตของเขาอยู่เพื่อตัวเขา ไม่ใช่อยู่เพื่อทำตามความคาดหวังของคนอื่น
  • เมื่อเขาทำผิดพลาดบกพร่อง อย่าไปโจมตีเขา หาวิธีการสอนให้เขาแก้ปัญหา และเรียนรู้จากข้อผิดพลาด
  • หาจังหวะให้คำชม แต่ต้องไม่ฟุ่มเฟือย
  • เวลาตำหนิ ต้องไม่ตำหนิเขา แต่จงตำหนิเฉพาะพฤติกรรมหรือสิ่งที่ทำที่ไม่ดี
  • ใจกว้าง ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น
  • มีความยุติธรรม มีใจกรุณา
  • เคารพตนเอง และรักษาสิทธิของตนเอง
  • ไม่ใช้แต่อำนาจร่ำไป ใช้ประชาธิปไตยบ้าง
  • มองคนอื่นในแง่ดี
  • พยายามทำให้ลูกน้องไว้วางใจ
  • สร้างแรงจูงใจ มากว่าใช้อำนาจบังคับ
  • พูดให้กำลังใจแทนที่จะตำหนิ
  • ให้ลูกน้องมีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็น และการตัดสินใจ
  • สร้างทัศนคติว่า เราทำได้