ห้องน้ํา
ห้องน้ำ เป็นห้องที่ต้องการ ความเป็นส่วนตัว มากกว่าทุกๆ ห้องในบ้านเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้เพราะ กิจกรรมที่ทำใน ห้องน้ำ อันได้แก่ การอาบน้ำ ชำระ ร่างกาย และการขับถ่าย เป็น กิจกรรมเฉพาะบุคคล ที่ต้องทำเป็น ประจำทุกวัน โดยเฉพาะ การอาบน้ำ ชำระร่างกาย ต้องทำอย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง คือ ตอนเช้า และตอนเย็น ตามหลัก สุขบัญญัติ ที่เราท่องจำตั้งแต่สมัยชั้นประถม ในปัจจุบัน ห้องน้ำยังใช้ เป็นสถานที่ ทำกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น การโกนหนวด แต่งหน้า แต่งตัว ซักผ้า หรือแม้กระทั่ง การอ่านหนังสือ เป็นต้น เมื่อกิจกรรมในห้องน้ำมีเพิ่มมากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องเอาใจใส่ และ พิถีพิถันกับการสร้าง การจัด ตกแต่งห้องน้ำ ให้สวยงาม น่าใช้ และตอบสนอง การใช้สอยให้มากที่สุด โดยต้องเริ่มตั้งแต่ การวางแผนที่ดี การคัดเลือกวัสดุ และการตกแต่ง ให้สวยงาม สอดคล้องกับห้องอื่นๆในบ้าน เป็นต้น
รูปแบบ หรือ สไตล์ ในการตกแต่ง ห้องน้ำ โดยส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่กับ รสนิยม และ ความชื่นชอบ ของแต่ละบุคคล การเลือกรูปแบบ หรือ สไตล์ การตกแต่ง ก็ควรให้สอดคล้องกับ รูปแบบและ การตกแต่งภายใน โดยรวมของ อาคาร บ้านเรือน นั้นๆ โดยมีข้อคิดว่า ไม่ควรใช้รูปแบบ ที่มีการประดับประดารุงรัง หรือมีรายละเอียดซอกมุมมาก เพราะจะทำให้ยากต่อ การทำความสะอาด ในปัจจุบัน รูปแบบ หรือ สไตล์ ที่มักเป็นที่นิยมหลากหลาย แต่รูปแบบสมัยใหม่ หรือ ร่วมสมัย ซึ่งเป็นแบบเรียบง่าย และมีความหรูหรา อยู่ในตัวนั้น มักเป็นที่นิยมมากกว่า การใช้รูปแบบในอดีต
ห้องน้ำ สไตล์คลาสสิก
ห้องน้ำ ลักษณะนี้มักเน้นรูปแบบ ที่ค่อนข้างหรูหรา มีรสนิยม ด้วยการเลือกใช้ วัสดุ ในการตกแต่ง และ การจัดวางแปลน ที่พิถีพิถัน
การจัดแบบแปลน ก็มักขึ้นอยู่กับ ขนาดของพื้นที่ อาจมีการแบ่งส่วนอย่างชัดเจน เช่น มี ห้องแต่งตัว ซึ่งแยกไว้อย่างเป็น สัดส่วนด้วย ผนัง การเลือกสุขภัณฑ์ และ ก็อกน้ำ ก็จะเลือกให้เข้าชุดกัน สีที่นิยมใช้ก็เป็น สีทองเหลือง หรือสีทองเหลืองผสมกับ โครเมียม มันวาว ส่วน สุขภัณฑ์ ก็เลือกตาม โทนสี โดยรวมของ การตกแต่ง เน้นการโชว์เนื้อแท้ ของวัสดุ วัสดุที่นิยมใช้ก็หนีไม่พ้น หินอ่อน หินแกรนิต กระเบื้องเคลือบ ทั้งแบบเรียบ และมีลวดลาย กรุยเชิงผนัง บัวเพดาน – พื้น กระจก หรือ วัสดุสังเคราะห์ ที่มีรูปลักษณ์แสดงออกถึงความหรูหรา สวยงาม
ห้องน้ำ สไตล์โมเดิร์น
ห้องน้ำ ในรูปแบบนี้ มักเน้นเส้นสายในเชิงเรขาคณิต เป็นสำคัญ และมักตัดทอน รายละเอียดปลีกย่อยบางอย่างออกไป ให้เหลือไว้ เพียงความเรียบง่าย และการโชว์เนื้อแท้ของวัสดุ เช่น หินอ่อน หินแกรนิต กระจกสเตนเลส โครเมียม หรือ หินทราย รวมทั้ง ผู้ออกแบบ ต้องมีความเข้าใจถึง ความต้องการของผู้ใช้ และ การออกแบบ โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่ดี เป็นสำคัญรวมทั้งการจัดแสงสว้างที่เหมาะสม
ดังนั้นการเลือกใช้วัสดุจึงควรมีสีสันและลวดลายที่เรียบง่าย แต่ดูดี เช่น สีดำ เทา หรือขาว ส่วนวัสดุประกอบก็ควรเป็น ชนิดที่ดู ทันสมัย อาทิ วัสดุมันวาว ประเภทโลหะ หรือวัสดุผิวด้าน ใส หรือขรุขระ สุขภัณฑ์ หรือก๊อกน้ำควรเลือกรูปแบบที่มีความทันสมัย มีดีไซน์เฉพาะที่มี เอกลักษณ์ โฉบเฉี่ยวเข้ากันได้ดีกับกระจกเงาดีไซน์รูปทรางให้แปลกตา เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าอาจเป็นกระจกใส โครงขาของอ่าง ทำด้วยเหล็ก ชุบโครเมียม เป็นต้น
ห้องน้ำ สไตล์ธรรมชาติ
ห้องน้ำ ลักษณะนี้เป็น การจัดแบบแปลน ที่ค่อนข้างแตกต่างจาก แบบอื่นๆ กล่าวคือ มีการนำเอา ธรรมชาติมาใช้ร่วมใน การออกแบบ ซึ่งปกติที่ทำกัน ก็จะมีอยู่ 2 วิธีคือ
- กำหนดให้พื้นที่ห้องน้ำเปิดโล่งเชื่อมกับ ภายนอก ใช้ธรรมชาติ เป็นตัวประสาน ด้วยการ จัดวางพันธุ์ไม้ต่างๆ บางกรณีผู้ออกแบบ อาจออกแบบให้มีรูปแบบที่พิเศษ เช่น ผนังด้านหนึ่งเป็น กระจกสูงโปร่ง าวตลอดแนวด้านใน ติดตั้งอ่างอาบน้ำ ล้อมรอบด้วยพันธุ์ไม้ จัดวาง สุขภัณฑ์ ที่เข้าชุดกัน พื้นปูด้วยหินทราย ผนังซีเมนต์ เปลือย หรือจัดเป็น ห้องน้ำ ที่มีหลังคาเปิดโล่ง ผนังบังสายตาก่อน ด้วยแนว ศิลาแลง ไม่สูงมากนัก ด้านในจัดวางสุขภัณฑ์ในตำแหน่ง ที่เหมาะสม เป็นต้น
- กำหนดให้มี ธรรมชาติอยู่ภายใน ห้องน้ำ อาจทำพื้นที่ไว้สำหรับ วางต้นไม้ เช่น ยกขอบที่จะวางกระถางต้นไม้ หรือจัดสวนหย่อมเป็นมุมเล็กๆ หรือนำเอา วัสดุธรรมชาติมาใช้ร่วมด้วย อาทิ การใช้ไม้ซีกหรือปีกไม้ร่วมกับกระเบื้อง หรือ ผนังปูนฉาบ ไม่เรียบ พื้นเป็นคอนกรีต และโรยด้วยกรวด เว้นพื้นที่ปูนหินแผ่น หรือ กระเบื้องดินเผา ตรงบริเวณ อ่างอาบน้ำ เพิ่มบรรยากาศให้เป็น ธรรมชาติ ด้วยพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ สำหรับวัสดุและโทนสีนั้น ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ การออกแบบเป็นสำคัญ แต่ก็ยังคงเน้นโทนสีธรรมชาติของวัสดุ เช่น สีของไม้ หิน ซีเมนต์ ก้อนกรวด กระเบื้องดินเผา หรือ สีของต้นไม้ ที่ใช้ประตกแต่ง ซี่งเป็น เสน่ห์สำคัญที่ให้ห้องน้ำ สวยงามอย่างมีเอกลักษณ์
ห้องน้ำ สไตล์คันทรี่
ห้องน้ำลักษณะนี้ โดยทั่วไป ก็เน้นความเป็น ธรรมชาติ ด้วย การตกแต่ง ที่เลือกใช้วัสดุที่มาจาก ธรรมชาติ และ วัสดุสังเคราะห์ ห้องน้ำ แบบนี้มีรายละเอียดและส่วนประกอบต่างๆ และรูปแบบที่ดูสบายๆ ที่ยังคง คำนึงถึง เรื่องขนาดของ พื้นที่ใช้สอย เป็นสำคัญ แต่ในบางกรณีก็มี การกำหนดโครงสร้างของ ห้องน้ำ ขึ้นเฉพาะ เช่น หลังคาที่มี ลักษณะสูงโปร่ง หรือหลังคาจั่ว เลือกใช้วัสดุ ธรรมชาติ อาทิ ปีกไม้ ไม้ท่อน หินกาบ กระเบี้อง และอื่นๆ ที่เป็น วัสดุจาก ธรรมชาติ หรือ วัสดุที่โชว์สี หรือ เนื้อแท้ของวัสดุ โทนสีส่วนใหญ่มักเป็นสีน้ำตาลครีม และขาว หรือ สีของวัสดุ ที่นำมาใช้ใน การตกแต่ง แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกให้ดูกลมกลืนกันไป
การตกแต่งเน้น ความสอดคล้องกลมกลืนกัน ไม่ว่าจะเป็น พื้น ผนัง สุขภัณฑ์ ผ้าม่าน กรอบรูป และของประดับตกแต่งอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อ ให้ห้องน้ำเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่อย่าลืมเสริมบรรยากาศความสดชื่นด้วยสีเขียวของต้นไม้
การวางแผน
เริ่มต้นพิจารณาจากความจำเป็น ในการใช้ห้องน้ำของสมาชิกในบ้าน ต้องดูว่ามีสมาชิกกี่คน แต่ละคน ใช้ห้องน้ำตอนไหน มีช่วงเวชลารีบเร่ง พร้อมกันหรือไม่ แค่ไหน เพื่อจะได้จัดวางแผนสร้างห้องน้ำ ได้เพียงพอกับความต้องการของคนในครอบครัว และสิ่งที่ลืมไม่ได้ คือ การตรวจดูงบประมาณ ค่าใช้จ่าย ในการทำว่ามีมากน้อยเพียงไร ปกติในบ้านสองชั้น จะทำห้องน้ำชั้นบนหนึ่งห้อง ชั้นล่างหนึ่งห้อง แต่ถ้ามีงบประมาณมากหน่อยก็อาจทำในห้องนอนใหญ่อีกหนึ่ง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว และความสะดวก สบายขึ้นได้อีก แต่หากมีงบประมาณจำกัด ห้องน้ำชั้นบนหนึ่งห้อง ชั้นล่างหนึ่งห้องก็นบว่าพอเพียงแล้ว
การเลือกตำแหน่ง ที่ตั้งห้องน้ำนั้น ต้องพิจารณาว่า สามารถฝังบ่อเกราะ บ่อซึม และต่อท่อน้ำทิ้ง ลงท่อ ให้สะดวก มากน้อยแค่ไหน พยายามหลีกเลี่ยง การเดินผ่านห้องอื่น เพื่อเข้าห้องน้ำ เราอาจวาง ตำแหน่งห้องน้ำ ให้กั้นระหว่างห้องนอน กับห้องนั่งเล่น และควรจัดห้องน้ำ ให้มีอากาศ หมุนเวียนออกสู่ ภายนอกได้ อาจทำโดย การเปิดหน้าต่าง หรือติด พัดลมดูดอากาศออกภายนอก เพื่อให้อากาศ ถ่ายเทได้สะดวก
การออกแบบห้องน้ำ
ภายใน ห้องน้ำ ควรประกอบด้วย อ่างล้างหน้า อาจ จะมีเคาน์เตอร์ด้วยก็ได้ ชักโครก โถปัสสาวะชาย ที่อาบน้ำ หรือถ้ามีพื้นที่มากพอ อาจใส่อ่างอาบน้ำเข้าไปก็ได้ การใช้งาน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่อย่าลืมที่ขาดเสียไม่ได้ภายในห้องน้ำ ควรมีพัดลม ระบายอากาศ หรือช่องลมก็ได้ หากไม่มีจะทำให้ ห้องน้ำอับชื้นและเกิดกลิ่นเหม็นได้
ห้องน้ำควรจัดตกแต่งให้สะอาด ไม่อึดอัด ควรแบ่ง เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนเปียก และส่วนแห้ง
ส่วนเปียก จะใช้ในการอาบน้ำ อาจจะเป็นอ่างหรือ ฝักบัวก็ได้ ควรมีการป้องกัน ไม่ให้น้ำกระเด็นมาสู่ส่วนแห้ง
ส่วนแห้งก็คือ ส่วนอ่างล้างหน้า โถปัสสาวะ ชักโครก ส่วนนี้สามารถใช้พรมแผ่น มาวางได้ แต่การใช้งานต้องระวัง ให้แห้งจริงๆ
นอกจากนี้ยังต้องมีเฟอร์นิเจอร์ส่วนประกอบต่างๆ อีก เช่น กระจกส่องหน้า ที่ใส่ทิชชู ที่ใส่สบู่ ที่แขวนผ้าเช็ด หน้า เป็นต้น
ถ้าเฟอร์นิเจอร์พวกนี้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมจะ ใช้งานไม่สะดวก ควรออกแบบไว้ล่วงหน้าเลยจะดีกว่า เพราะ ถ้ามีปัญหาจะแก้ไขยาก เช่น ตำแหน่งของกระจกส่องหน้าสูงเกินไป
ที่แขวนผ้าเช็ดหน้า และที่ใส่ทิชชูใกล้อ่างล้างหน้าจน เกินไป ทำให้เปียกได้
ที่แขวนผ้าเช็ดตัวอยู่ไกลจากส่วนอาบน้ำ
สายชำระอยู่ซ้ายมือ ใช้งานไม่สะดวก
ม่านกันน้ำ เลื่อนไปแล้วติดสุขภัณฑ์
ที่วางสบู่ โดนน้ำจากฝักบัว ทั้งหมดนี้ควรหลีกเลี่ยงให้ได้
การจัด
การจัดห้องน้ำห้องส้วมควรยึดหลักความสวยงาม ที่ไม่ทำให้เสีย ประโยชน์ ใช้สอย ห้องน้ำและห้องส้วม อาจจัดแยกจากกัน หรือรวมไว้ใน ห้องเดียวกันก็ได้ การจัดไว้รวมกัน ยังอาจแบ่งเป็นตอน ๆ ทำให้สามารถใช้ห้องน้ำได้พร้อมกัน ครั้งละหลายคน โดยแต่ละคน จะมีม่านหรือผนังเตี้ยๆกั้นไว้ การจัดเรียงสุขภัณฑ์ทั้งหลายไว้ในผนังเดียวกันเป็น การประหยัด ค่าติดตั้งท่อน้ำ ได้ดีที่สุด
ในปัจจุบันมีผู้ผลิตห้องน้ำสำเร็จรูป ออกจำหน่ายด้วยกันหลายราย ผนังห้องน้ำทำด้วยใยแก้ว มีสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ครบครัน ซึ่งสามารถนำมาประกอบเข้า กับห้องได้ทันที เจ้าของห้องน้ำ ควรเลือกสีกระเบื้องและสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มีสีและลวดลายกลมกลืนกัน สำหรับการทำพื้น การปูกระเบื้อง การเดินท่อ และการติดตั้งเครื่องใช้ในห้องน้ำนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้นจึงควรเลือกช่าง ที่มีความชำนาญด้านนี้เป็นพิเศษโดยเฉพาะการป้องกันการรั่วซึม
หลักการจัด
หลักที่ควรคำนึงสำหรับการจัดสร้างห้องน้ำห้องส้วม คือ
1. ไม่ควรปูพื้นห้องด้วยวัสดุที่มีผิวหน้าลื่นและเรียบเป็นมัน เช่น กระเบื้องเคลือบ เพราะเมื่อเปียกน้ำ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ควรใช้วัสดุที่มีผิวหน้าค่อนข้างหยาบ เช่น โมเสกชนิดด้าน เซรามิกชนิดด้าน เป็นต้น
2. เมื่อเปิดบานประตูแล้วไม่ควรบังสวิตซ์ไฟ ควรใช้ปลั๊ก และสวิตซ์ไฟ แบบกันน้ำ และไม่ควรติดตั้ง ในส่วนที่น้ำ สามารถกระเด็นได้ถึง
3. .สามารถระบายอากาศออกทางหน้าต่าง และแสงสว่าง ก็สามารถ ส่องผ่านเข้ามาได้ หน้าต่างควรอยู่สูงเกินระดับสายตา ผู้ที่เดินผ่าน ภายนอก และที่สำคัญต้อง มิดชิด
4. ไม่ควรตั้งโถส้วมตรงกับประตู
5. .ท่อระบายน้ำควรมีขนาดใหญ่พอสมควร และพื้นห้อง ต้องเทลาดไปยัง บริเวณท่อระบายน้ำ
6. .ควรติดฉากพลาสติกหรือกระจกเลื่อนระหว่างส่วนอาบน้ำกับส่วนอื่น ๆ ที่พื้นอาจก่อขอบสูงประมาณ 0.20 เมตร เพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นหรือไหลไปยังส่วนอื่น ๆ
ขนาด
หากเนื้อที่ในบ้านอำนวยห้องน้ำมักมีขนาดใหญ่ เพื่อให้จัดแต่งได้อย่างสวยงาม และสะดวกสบายน่าใช้ และถ้ามีบริเวณกว้างขวางพอ ห้องน้ำกับห้องส้วมมักแยกจากกันเป็นสัดเป็นส่วน หรือไม่เช่นนั้นแต่ละคนก็จะมีห้องน้ำส่วนตัว อยู่ในห้องนอนห้องน้ำมีขนาดตั้งแต่ 2.00 x 2.50 เมตร ถึง 3.00 x 3.50 เมตร ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้ห้องน้ำ
ที่ตั้ง
ห้องน้ำ อาจตั้งอยู่ภายในตัวบ้าน หรือแยกออกไปตั้งภายนอกก็ได้ ห้องน้ำห้องส้วม สำหรับแขก ควรอยู่ใกล้กับห้องรับแขก ห้องน้ำชั้นบน ควรติดกับห้องนอน สิ่งที่ควรระมัดระวังคือห้องน้ำห้องส้วม ต้องตั้งอยู่ในที่ซึ่ง ระบายอากาศได้ดี และควรตั้งบริเวณทิศตะวันตกเพื่อให้แสงแดดยามบ่าย สามารถส่องดถึงได้
แสงสว่าง
ห้องน้ำห้องส้วมต้องการแสงสว่างพอประมาณ โดยทั่วไปมัก จะเน้น แสงบริเวณกระจกส่องหน้า ซึ่งบางครั้งใช้สำหรับโกนหนวดแต่งหน้า และควรมีแสงแดดส่องใน เวลากลางวัน เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า และเป็นการฆ่าเชื้อโรค ในห้องน้ำห้องส้วมไปด้วยในตัว
เครื่องใช้ในห้องน้ำ
เครื่องใช้
การจัดเครื่องใช้ขึ้นอยู่กับแบบของห้องน้ำห้องส้วมว่าจะเป็นแบบใด ซึ่งมีด้วยกัน 3 แบบ คือ
1. แบบตุ่มน้ำหรืออ่างน้ำ (ใช้ตัก)
2. แบบฝักบัว
3. แบบอ่างอาบน้ำ
สำหรับเครื่องใช้ในห้องน้ำห้องส้วมทั้ง 3 แบบสามารถกล่าวรวม ๆ ได้ คือ ที่เก็บน้ำ อาจเป็นตุ่มน้ำ หรือ ที่เก็บน้ำแบบก่อ เองซึ่ง ก่อด้วยอิฐ หรือใช้ คอนกรีตหล่อ และห้องกันการรั่วซึม โดยผสมน้ำยากันซึม ลงในปูนแล้ว ปูผนังด้านนอกด้านใน และพื้นด้วย กระเบื้องเคลือบ ด้านข้างตอนล่างสุด มีช่องระบายน้ำออก นอกจากตุ่มน้ำแล้ว ยังมีพลาสติกหล่อ เป็นถังหลายขนาด หลายรูปทรง เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้
ฝักบัวมี 2 แบบ คือ ชนิดก้านแข็งติดถาวรกับผนัง และชนิดสายอ่อนซึ่งสามารถปรับระดับการพ่นน้ำได้
อ่างอาบน้ำ ขนาดที่นิยม คือ 0.80 x 1.50 x 0.40 เมตร มีทั้งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปไข่ สี่เหลี่ยมจัตุรัส อ่างน้ำเป็นเหล็กหล่อเคลือบด้วย น้ำยาเคลือบ และมีก๊อกติดมากับอ่าง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง น้ำร้อนและน้ำเย็น ในปัจจุบันการใช้ อ่างอาบน้ำ ลดน้อยลงไปมาก เนื่องจาก ปัญหาการขาดแคลนน้ำ ซึ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
อ่างล้างหน้า มีรูปทรงต่างๆ กัน เช่น สีเหลี่ยมผืนผ้า รูปไข่ รูปกลม มีทั้งแบบ ยึดติดกำแพงและผนัง และแบบที่ก่อขึ้นมาเป็นโต๊ะ อ่างล้างหน้า จะสูงจากพื้น ประมาณ 0.80 เมตร
ส่วนที่เป็นโต๊ะวางอ่างล้างหน้าอาจมีส่วนล่าง เป็นตู้หรือ ลิ้นชักเก็บ เครื่องใช้ในห้องน้ำ เช่น ผ้าเช็คตัว สบู่ กระดาษชำระ ที่สำรองไว้ ฯลฯ และมักติดกระจกเงา ไว้ด้านหลังอ่างล้างหน้า
โถส้วม โดยทั่วไปมี 2 ประเภท คือ ส้วมซึมและส้วมซักโครก
ส้วมซึม(squat) หรือ ส้วมนั่งยอง มีทั้งแบบซีเมนต์หล่อ ตกแต่งด้วยหินขัด กับแบบดินขาวเคลือบ ซึ่งดูสวยงาม ทำความสะอาดง่าย และมีราคาแพงกว่า ส้วมซึม ยังมีแบบที่มีเฉพาะตัว ส้วมซึ่งต้องนำไปฝัง กับพื้นห้องน้ำหรือ ก่อฐานสูงขึ้นมาแล้ว ฝังตัวส้วมลงไป กับแบบที่มีฐานหุ้ม อยู่เรียบร้อย ส่วนมากตัว ส้วมสูงจากพื้นประมาณ 0.20เมตร การชำระของส้วมซึมมี 3 แบบด้วยกัน ได้แก่
- แบบราดน้ำ ซึ่งต้องจัดเตรียมหา ที่ใส่น้ำไว้ อาจเป็นตุ่มใบเล็ก ถังน้ำ หรือ ก่อที่เก็บน้ำขึ้นเอง เพื่อใช้เก็บน้ำ โดยเฉพาะก็ได้ โดยต้อง กำหนดขนาด ให้เหมาะสมซึ่ง ผู้นั่งส้วมจะใช้ได้สะดวกแบบหม้อน้ำ (Cistern) มีหม้อเก็บน้ำอยู่ ด้านหลังของตัวส้วม เมื่อต้องการใช้ ก็กดคันโยก ให้น้ำจากหม้อ ไหลมาทำความสะอาดส้วม แบบสุดท้ายคือ แบบฟลัชวาล์ว (flush valve) ซึ่งคล้ายกับ แบบหม้อน้ำ เพียงแต่ไม่มีหม้อน้ำ เมื่อกดคันโยก ก็จะมีน้ำไหลออกมา ทำความสะอาดอัตโนมัติ
- ส้วมชักโครก (toilet) ส่วนมากทำด้วยดินขาวเคลือบแก้ว (vitreous china) โถส้วมมีทั้งรูปทรงกลมและรูปไข่ ขนาดประมาณ 0.35 x 0.40 เมตร และสูงจากพื้น 0.40 เมตร มีฐานติดกับพื้นมีฝารองนั่ง และฝาสำหรับปิดโถส้วม เมื่อไม่ได้ใช้ ส้วมชักโครก มีทั้งแบบ หม้อน้ำและ แบบฟลัชวาล์ว
ข้อพิจารณาในการจัดแต่งห้องน้ำ
การติดตั้งโคมไฟให้แสงสว่างควรติดตั้งตายตัว และเต้าสำหรับ เสียบปลั๊ก ควรควรมีฝาครอบ เพื่อความปลอดภัย สวิทช์ไฟ ควรติดไว้ภายนอกห้องน้ำ หรือถ้าเอาไว้ในห้องน้ำ ควรปิด - เปิดด้วยการดึงเชือก และควรต่อเชือก ให้ยาวพอ สำหรับเด็กๆด้วย การติดโคมไฟโดยทั่วไป จะติดกลางห้อง และอาจสร้าง บรรยากาศ โดยการติดกระจก ที่มีคุณสมบัติกระจายแสง หรือ อาจใช้ไฟฟ้า ที่ปรับแสงได้ โดยเฉพาะหน้ากระจกส่องหน้า ต้องจัดแสง ให้สว่างเพียงพอ ให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ หน้ากระจก เช่น การโกนหนวด หรือ แต่งหน้า
ผนังและพื้นที่นิยมนำมาตกแต่ง ปูพื้นและบุผนัง ห้องน้ำมากที่สุด คือ กระเบื้องเซรามิก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพ คงทน ต่อการใช้งาน มีสีสันและลวดลายหลายแบบให้เลือกใช้ ในการตกแต่ง อาจใช้วิธีปูกระเบื้อง ที่พื้น และบุผนังตลอดจรดเพดาน หรือถ้าเป็นห้องขนาดใหญ่ ต้องการลดค่าใช้จ่าย อาจใช้กระเบื้องเซรามิคบุผนัง เพียงเศษสามส่วนสี่ ของความสูงของผนังห้อง ส่วนที่เหลือทาสี โดยเลือกสีให้สัมพันธ์กับสีกระเบื้อง ถ้าห้องมีขนาดแคบ อาจแก้ไขโดยติดกระจกที่ผนัง เพื่อทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แต่ต้องคำนึงถึงความสะดวก ในการทำความสะอาดด้วย ส่วนวิธีบุผนัง ที่มีราคาถูกที่สุดคือ การทาสี อาจจะทา สีเดียวกันตลอด หรืออาจทาสีเดียว แล้วใช้สีเข้มๆ ทาเน้นงานไม้ งานท่อที่มีอยู่ จะทำให้ดูสดใส มากขึ้น วัสดุที่ปิดผนังอีกชิ้นหนึ่งคือ ไวนิลวอลล์เปเปอร์ ซึ่งปัจจุบัน มีสีลวดลาย และพื้นผิว ที่แตกต่างกัน มากมาย มีให้เลือกให้ตามใจชอบ
ในห้องน้ำจะมีของใช้มากมาย ดังนั้นจึงต้องจัดหา ที่เก็บให้เป็น ระเบียบเรียบร้อย สวยงามและที่สำคัญ คือหยิบใช้สะดวก เช่น อาจทำราว พาดผ้าเช็ดตัว หรือจัดไว้ที่ชั้นวางสบู่ แชมพูสระผม เครื่องสำอาง และมีดโกน ควรเก็บไว้ให้พ้นมือเด็ก อาจจะเป็น ที่ชั้นวางหรือตู้กระจก เหนืออ่างล้างหน้า หรืออาจทำ ที่วางของ ไว้อ่างล้างหน้า เพื่อบังท่อน้ำทิ้งไป ด้วยในตัว สำหรับบ้านที่มีห้องน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ ในการตกแต่ง ได้มาก อาจจะตั้ง ชั้นวางหนังสือ อ่านเล่น เก้าอี้ตัวสวย ติดม่านมู่ลี่ที่หน้าต่าง ตั้งกระถาง ต้นไม้ ตามมุมต่างๆ หรือนำศิลปะ ในยุคใด ยุคหนึ่ง มาประดับ เช่น เยือก ถ้วย เปลือกหอยต่างๆ เป็นต้น
การเปิดหน้าต่างในห้องน้ำ จะต้องตรวจดู ให้ปลอดจาก สายตาคนภายนอก แต่อาจจะหากระจก ทึบแสง หรือกระจกหักเหแสง ได้มาติดไว้ หากเป็นมู่ลี่ ควรเป็น มู่ลี่บานเกร็ดแนวดิ่ง เพราะแสงจะเข้าได้ แม้ปิดอยู่หรืออาจติดม่าน เพียงครึ่งล่าง ของหน้าต่าง หรือทำชั้นวางต้นไม้ หรือ สิ่งของจะบังสายตาได้มาก