ห้องนอน
ออกแบบห้องนอน
ห้องนอน การนอนหลับคือ การพักผ่อนที่ดีที่สุด การนอนหลับเพียง 5-6 ชั่วโมง ในห้องที่เงียบสงบ มืดสนิท อุณหภูมิพอเหมาะ และอากาศ ถ่ายเทดี ก็นับว่า เพียงพอแล้ว สำหรับคนเราในวันหนึ่ง ๆ ห้องนอน จึงเป็นห้อง ที่ต้องการ ความสงบมากกว่าส่วนใด ในบ้าน ให้ความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย แก่เจ้าของ อีกทั้งแสดง รสนิยม และ บุคลิก ของเจ้าของห้อง ได้มากกว่า ห้องอื่น นอกจากจะใช้เป็น ห้องพักผ่อนนอนหลับแล้ว ยังอาจใช้เป็น ห้องแต่งตัว และ ห้องทำงานส่วนตัว ได้อีกด้วย การนอน ถือเป็น กิจกรรม หรือ กิจวัตรประจำวัน ที่จำเป็น ต้องมีต้องปฏิบัติ เพื่อการเริ่มต้นชีวิต ในวันใหม่ ที่สดชื่น สุดๆ พร้อมกับ ภารกิจ การทำงาน ทุกสภาวะ และโอกาสใน การทำงาน แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งของการ "นอน" ก็คือ "สุขภาพ"ที่ดีของ ร่างกาย เมื่อมี การทำงานไม่ว่า จะด้วย การใช้แรงกาย หรือแรงสมอง สติปัญญา และหรือ แม้แรงใจ แรงกระตุ้น จาก พลังจิต ภายใน ที่ทำให้คนเรา มีความสุขใน การทำงาน ปฏิบัติงาน ในหน้าที่ของ แต่ละท่าน ให้ได้ผลสมบูรณ์เต็มร้อย ควรอย่างยิ่งต้องมีการ "นอน" เป็นกิจกรรมที่สำคัญของวัน ที่เราๆ ทุกท่านต้อง พักผ่อนด้วย การ"นอน"
ห้องนอน ถือว่าเป็น สถานที่ส่วนตัว การออกแบบตกแต่ง จึงสามารถ ทำให้มีลักษณะ เฉพาะตัว ที่เด่นชัดออก มาได้เต็มที่ และตามสไตล์ ที่ผู้อยู่ต้องการ ได้ด้วย เนื่องจากพื้นที่ใน ห้องนอน นั้น เป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่พ้นจากสายตาคนอื่นๆ และยังเป็น ห้องที่เหมาะที่สุด ในการ สร้างสรรค์ ตามความประสงค์ ของผู้อยู่อย่างมาก บางคนอาจจะชอบ ห้องนอน ที่เต็มไปด้วย บรรยากาศ แบบไทยๆ ที่สามารถจะใช้โต๊ะ ตั่ง คันฉ่องหรือ กระจก มาตกแต่ง การวางที่นอน บนพื้นก็เป็น การเพิ่มบรรยากาศ ให้ห้องน่าอยู่มิใช่น้อย หรือบางคนอยากจะแต่ง ให้โมเดิร์นสุดๆ ก็ย่อมที่จะทำได้ เพราะห้องนอนเปรียบเสมือนโลกส่วนตัว ของแต่ละบุคคลที่สามารถ จะสร้างสรรค์ สิ่งที่ต้องการ ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องคำนึงถึง รสนิยมและประโยชน์การใช้สอยร่วมกับผู้อื่น เหมือนกับการตกแต่งในห้องอื่นๆ
การออกแบบห้องนอน
ห้องนอน ถือว่าเป็นสถานที่ส่วนตัว การออกแบบตกแต่ง จึงสามารถ ทำให้มีลักษณะ เฉพาะตัว ที่เด่นชัดออกมาได้เต็มที่ และตามสไตล์ ที่ผู้อยู่ต้องการ ได้ด้วย เนื่องจากพื้นที่ในห้องนอนนั้น เป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่พ้นจากสายตาคนอื่นๆ และยังเป็นห้องที่เหมาะที่สุด ในการสร้างสรรค์ ตามความประสงค์ ของผู้อยู่อย่างมาก ภายในห้องต้องมีหน้าที่สามารถรับแสงแดดยามเช้าได้ดี มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกในบ้านหนึ่งหลัง อาจแบ่งห้องนอนออกเป็น
- ห้องนอนใหญ่ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องนอนของเจ้าของบ้าน มีขนาดใหญ่ กว่า ห้องนอนอื่น ๆ ของบ้าน มีห้องน้ำในตัว อาจมีส่วนที่ใช้สำหรับ การแต่งตัวแยกออกไป สำหรับเก็บเสื้อผ้า โทนสีที่ใช้ตกแต่งห้องสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบของเจ้าของบ้าน การตกแต่งอาจเน้นในส่วนที่เป็นหัวเตียง ซึ่งนับว่าเป็นจุดเด่นของห้อง
- ห้องนอนอื่น ๆ ที่จะมีขนาดเล็กกว่าห้องนอนใหญ่ ใช้สำหรับให้สมาชิกเล็ก ๆ ของครอบครัว หรืออาจเป็นห้องนอนที่ใช้รับรองแขก การตกแต่งห้องนี้สามารถ ตกแต่งได้ตามใจชอบของเจ้าของบ้านอีกเช่นกัน อาจมีโทนสีแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากความต่างวัย และเพศของผู้อยู่อาศัยห้องนอนเล็กส่วนใหญ่มักไม่มีพื้นที่แต่งตัว แต่จะใช้ตู้เสื้อผ้า เข้าชุดกันกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ
ห้องนอน ที่ดีควรอยู่ทางทิศตะวันออก และทางทิศ ใต้ เพื่อหลีกเลี่ยง การรับ แสงแดด ในตอนบ่ายของทิศตะวัน ตก และสามารถรับ ลมธรรมชาติได้ การจัดพื้นที่ใช้สอยแบ่ง ออกได้ 2 ส่วน คือ
ส่วนแรก เพื่อการใช้งานส่วนตัว เช่น ผลัดเปลี่ยน เสื้อผ้า แต่งตัวทำงาน ส่วนเหล่านี้ ควรอยู่ใกล้กับทางเข้า หรือ ใกล้กับห้องน้ำ
ส่วนที่สอง สำหรับนอนหลับพักผ่อน ซึ่งการจัดวาง เตียงนอน ไม่ควรให้ หัวเตียง หรือปลายเตียงอยู่ใกล้หน่าต่าง มากเกินไป เพราะ ลมที่พัดโดน ศีรษะผู้นอนอาจรู้สึกไม่สบาย หรือถ้าติดแอร์ก็ไม่ควรวางปลายเตียง หันหน้าไปทาง เครื่องปรับอากาศ เพราะลมจะพัด เข้าจมูกเวลานอน อาจจะเป็นหวัดได้ ที่สำคัญควร คำนึงถึง ขนาด ของ เฟอร์นิเจอร์ ให้สัมพันธ์กับขนาด ของห้องด้วย ตามสัดส่วน ที่เหมาะสมด้วย
ขนาดรูปร่างที่เหมาะสมของห้องนอน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งานและอุปนิสัยของผู้ใช้ด้วย เช่น ถ้าเป็นเด็กก็ควรจัดพื้นที่ว่างสำหรับทำกิจกรรม และควรมีบริเวณสำหรับแต่งตัวด้วย ในทางสถาปัตยกรรมได้แบ่งห้องนอนเป็นสองขนาดดังนี้ ห้องนอนหลัก (Master Bedroom) โดยมากจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน และมักจะเป็นห้องของเจ้าของบ้าน มีขนาดประมาณ 20 ตารางเมตร เป็นอย่างน้อย และมักมีห้องน้ำส่วนตัวเพื่อความสะดวกเป็นสัดส่วน ห้องนอนรอง (Bedroom) เป็นห้องที่มีขนาดรองลงมาและมีพื้นที่ใช้สอยที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น โดยห้องแบบนี้มักจะเป็นห้องสำหรับ ลูก ญาติ หรือ แขก โดยมีขนาด 12 – 15 ตารางเมตร ทั้งนี้ ห้องนอนก็มิได้มีกฎเกณฑ์ตายตัวในเรื่องของขนาด แต่ควรมีขนาดที่สามารถบรรจุเครื่องเรือนที่สำคัญได้ครบ ในส่วนของรูปร่าง การตกแต่งก็ขึ้นอยู่กับการตกแต่งของบ้าน และลักษณะสถาปัตยกรรม
การตกแต่งห้องนอน
บางคนชอบที่จะ ตกแต่งห้องนอน โดยการเน้น ที่จุดเด่นของห้อง ให้อยู่ที่ เตียง ดังนั้นจึงมี การเลือกแบบ แล ะตำแหน่งของเตียง เป็นพิเศษ เตียงมีด้วยกัน หลายลักษณะ เช่น เตียงที่มีสี่เสา เตียงเหล็กหล่อ แบบเก่า เตียงแบบโบราณ เตียงทองเหลือง เตียงไม้ และ เตียงไม้แกะสลัก เป็นต้น การเพิ่มสีสันให้กับเตียง ด้วยการตกแต่ง โดยใช้ผ้า โทนสีนุ่มนวลละมุนตา มาทำเป็น หมอนอิง ผ้าคลุมเตียง และม่าน ซึ่งผ้าที่ใช้นั้น อาจจะมีลวดลาย ที่เหมือนกัน หรือจะเป็นลวดลาย ที่เข้ากันได้ สำหรับ ผู้ที่ชอบ ความสง่างาม ภูมิฐาน ควรที่จะเลือกใช้ เตียงสี่เสา และตกแต่ง ด้วย ผ้าลายคลาสสิก จับจีบติดไว้บน หลังคาเตียง แล้วรวมปล่อยชาย ไว้ที่ เสาทั้งสี่ ห้วยเชือกถักเส้นใหญ่ ซึ่งควรให้มีลักษณะ ที่ไปกันได้ ม่านหน้าต่าง โดยจับจีบ ติดครุยและพู่ จะเป็นการช่วยให้ห้องดูงดงามมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น อุปกรณ์อย่างอื่นยังสามารถช่วย ให้การจัดห้องนอน ดูสมบูรณ์ขึ้นได้ คือ พรมปูหน้าเตียง ภาพตั้งบนโต๊ะข้างเคียง โคมไฟซึ่งมีทั้งแบบตั้ง และ แบบแขวน ที่สามารถปรับแสงได้ เป็นต้น แต่ถ้าใครไม่ต้องการ ตกแต่ง โดยให้เตียงนอน สะดุดตา ก็สามารถทำได้ หลายวิธีด้วยกัน เช่น การกั้นบริเวณ ที่วางเตียง โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือ ผนังเตี้ยๆ หรือจะเลือกใช้เตียงแบบเรียบๆ ที่มีขนาดเล็ก และสามารถพับเก็บได้
ห้องนอนคอมแพ็ค
การใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสามารถทำให้ห้องเล็กของคุณดูแตกต่าง กว่าห้องนอนเล็กทั่วๆไป การใช้กำแพงห้องที่เป็นสีขาว ผ้าปูเตียงสีขาวยังสามารถช่วยให้ห้องดูกว้างและมีสไตล์ในขณะเดียวกัน เมื่อ คุณมีพื้นที่ห้องนอนที่จำกัด การจัดวางสิ่งของต่างๆให้ลงตัวถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด การใช้สีขาวภายในห้องดูจะเหมาะสมมากที่สุด ขั้นตอนต่อไปคือการกำจัดข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นออกไป หรือพยายามให้สิ่งของเหล่านั้นเหลือน้อยที่สุด หากคุณต้องการเพิ่ม พื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น ก็ไม่ควรจะใช้เตียงนอนที่มีโครง เคลื่อนย้ายลำบาก อาจจะใช้เป็นที่นอนพับเก็บได้หรือทำโครงสร้างให้เป็นเตียงสูงขึ้นไป (เตียง 2 ชั้น) ดังนั้นคุณก็จะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น อาจจะใช้เก็บสิ่งของ ทำที่เก็บเสื้อผ้า หรือแม้กระทั้งทำเป็นโต๊ะก็ได้ หากคุณต้องการตกแต่งให้ห้องดูเรียบแต่หรู ก็ควรทำเป็นชั้นวางแทนที่จะเป็นตู้โชว์ เมื่อห้องคุณมีขนาดที่จำกัด ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าม่านที่มีสีสันเพราะจะทำให้ดูกินพื้นที่มาก
ห้องนอนสไตล์ Zen
การสร้างบรรยากาศในห้องนอนให้ดูนิ่ง สงบ เรียบง่าย โดยใช้สีที่เป็นธรรมชาติ สิ่งที่สำคัญคือการตัดสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำให้ดูยุ่งเหยิงออกไป ถ้า คุณเป็นคนที่ไม่ชอบความสับสนวุ่นวาย ห้องนอนสไตล์เซนดูจะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด การใช้เฟอร์นิเจอร์ควรเป็นแบบเรียบง่าย ผ้าที่ใช้ควรจะเป็นสีธรรมชาติ ผสมกับสีขาว ครีม และน้ำตาล ความเรียบง่ายไม่ได้หมายถึงความน่าเบื่อ คุณสามารถสร้างบรรยากาศได้โดยใช้วอลเปเปอร์ที่มีเส้นสายได้ พื้นห้องปาร์เก้ดูจะเข้ากับห้องนอนสไตล์นี้มากที่สุด พยายามใช้โทนสีที่เป็นธรรมชาติให้มากที่สุด คุณอาจจะใช้มูลี่แทนการ ใช้ผ้าม่าน การใช้สีควรจะใช้สีเข้มเช่น ดำ หรือน้ำตาลเข้ม เพื่อสร้างอารมณ์ของความสงบ และเพื่อไม่ให้ห้องดูน่าเกรงขามจนเกินไป ควรมีส่วนประกอบอื่นๆภายในห้องที่ทำจากผ้า หนัง หรือไม้ เช่นหมอนสีขาวครีม แจกันเซรามิคประดับดอกไม้ ตะเกียงไม้ เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ห้องคุณดูเก๋มากยิ่งขึ้น
เฟอร์นิเจอร์ (Furniture)
- เตียงนอนคู่ ขนาดใหญ่ (King Size) ขนาดประมาณ 1.8-2.0x2.0 เมตร ขนาดกลาง(Queen Size) ขนาดประมาณ 1.5-1.8x2.0 เมตร
- เตียงนอนเดี่ยว ขนาดประมาณ 0.9-1.1x2.0 เมตร
- เตียงสองชั้น สำหรับห้องนอนเด็กที่โตพอสมควรเว้นระยะความสูงของระดับ ที่นอนชั้นล่างถึงชั้นบนประมาณ 1.2 เมตร
- โต๊ะข้างเตียง ขนาด 0.3-0.4x0.45 เมตร
- ตู้เสื้อผ้า ขนาดยาว1.2-1.5 เมตรต่อการเก็บเสื้อผ้าของคนหนึ่งคน
- โต๊ะเครื่องแป้งชาย/หญิง ขนาดลึก 0.6/1.0 เมตรสูง1.0/0.75 เมตร ยาว ประมาณ0.45-0.6 เมตร
การจัดแต่ง (Decor)
ลักษณะที่ดีของการจัดห้องนอน
จัดห้องนอนให้อยู่ตรงกลาง หรือด้านหลังของบ้าน ห้องนอนไม่ควรอยู่ติดกับห้องครัวหรือห้องเก็บของ เพราะจะทำให้เกิดเรื่องทุกข์ร้อนหรือเจ็บไข้ไม่สบาย ภายในห้องนอนไม่ควรนำรูปภาพที่มองดูแล้วเกิดความน่ากลัวชวนให้ขนหัวลุก หรืออะไรก็ตามที่มองดูแล้วทำให้เกิดความหดหู่ในจิตใจ ไม่ควรนำมาติดประดับไว้เป็นอันขาด เพราะจะมีผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจของบุคคลในครอบครัว
หมั่นดูแลทำความสะอาดเครื่องนอน
ปัดกวาดดูแลอย่าให้มีฝุ่นละอองจับเต็มห้องเพราะจะมีผลต่อความเป็นสิริมงคลของบ้าน ปลายเตียงนอนหันไปทางประตูห้องนอน เวลานอนเท้าทั้งสองหันไปทางด้านประตู ถือว่าเป็นอัปมงคล เพราะจะทำให้ฝันร้ายอยู่เสมอ บนหัวเตียงนอนไม่ควรวางสิ่งของต่างๆ มากจนเกินไป เพราะจะทำให้ผู้นอนมีความรู้สึกกดดัน มีผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก
แสงไฟในห้องนอนควรเป็นสีอ่อน ๆ นวลตา
จึงจะเป็นลักษณะมงคลส่งผลให้เกิดความสุข ความอบอุ่นและมีโชคลาภ ฝาผนังห้องนอนควรที่จะทาสีอ่อนๆ มองดูแล้วสบายตา หากใช้สีเข้ม จะทำให้เกิดความรู้สึกตึงเครียดทั้งวัน เตียงนอนที่ถือว่าเป็นมงคลนั้น มุมแต่ละมุมของเตียงต้องโค้งมน ควรใช้ฟูกหรือที่นอนอันใหญ่เพียงอันเดียวแทนการนอนบนฟูก 2 อัน ในกรณีที่เป็นคู่สามีภรรยา เพราะอาจส่งผลให้เกิดการกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อย ๆ เตียงนอนไม่ควรอยู่ใกล้ตู้หรือโต๊ะขนาดใหญ่จนเกินไป ไม่ว่าจะอยู่ชิดมุมใดก็ตาม จะทำให้มีอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ปลอดภัยสำหรับลูกหลานภายในบ้าน
การจัดห้องนอนสำหรับคนต่างวัย
ควรจัดให้ห้องนอนของคนในวัยหนุ่มสาวและเด็กอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของตัวบ้าน ห้องนอนคนแก่ควรอยู่ทางทิศตะวันตกและหันหัวนอนไปทางทิศใต้ ห้องนอนของผู้สูงอายุควรจะอยู่ในมุมที่สงบเงียบ มีอากาศถ่ายเทได้ดีเพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อน ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะอยู่ตรงกลางของบ้านหรือด้านหน้าบ้าน
องค์ประกอบของห้องนอน
พื้นห้อง
วัสดุที่ใช้ปูพื้นห้องมีหลายชนิดให้เลือก แต่ก่อนที่จะ ตัดสินใจเลือกนั้น ควรคำนึงถึง สภาพการให้สอยด้วย ถ้าต้องการพื้นที่นุ่มสบาย ก็ควรเลือก ปูพื้นด้วยพื้นไม้ และ บางส่วนที่สัมผัสบ่อย เช่น บริเวณหน้าเตียง ควรปูด้วยพรมชิ้น สำหรับ ห้องนอน ที่ตกแต่ง อย่างกันสมัย สามารถเลือก ปูพื้น ด้วยวัสดุอื่นๆ อาทิ กระเบื้องยาง พรมวิทยาศาสตร์ หรือกระเบื้อง เซรามิกก็ได้ แล้วแต่ความต้องการ และความเหมาะสม
กระเบื้อง ดี...ราคาถูกดูแลรักษาง่าย ไม่กลัวน้ำ เสีย..เป็นรอยขีดข่วนง่าย ยาแนวดำกลายเป็นตารางหมากรุก(ถึงจะบอกว่ายาแนวบางๆก็ตามที ไม่ออกให้ดูที่พื้นตามห้างแทบจะไม่มีร่องให้ยาแนวแต่ก็ดำ) เดินแล้วเย็น และถ้าฝนตกจะ รู้สึกชื้นๆ ไม่สบายตัวและเท้า ลื่น ไฟช๊อตง่าย
ไม้จริง ดี...สวย หรู ไฟไม่ช๊อต ไม่ชื้น และแพง (จะไม้จริงแผ่นหรือปาร์เก้ก็ตามที) เสีย.. ดูแลรักษายาก เป็นลอยขีดข่วนง่าย กลัวน้ำมากๆๆๆ ต้องทายูเรนเทรนทุก 3-5 ปี บวมและปริออก ปลวกชอบ (อย่าบอกว่าไม้แตงหรือสักปลวกไม่กินนะ กินทั้งหมดถ้าไม่มีไม้เนื้ออ่อนกว่าให้กิน) แพง ถ้าขอบหนักหล่นใส่..ยุบตามรูป ร่อน ซี้ดบริเวณที่แดดส่องถึง หรือเดินบ่อย กระเบื้องยาง (ขอเสนอในส่วนที่เป็นแบบม้วนเท่านั้น แบบแผ่นไม่ต้องมาพูดถึง) ดี... เดินแล้วนุ่มเท้าที่สุดใน 3 แบบ ไฟ้ไม่ช๊อต เนียนตา ไม่ชื้น ดูแลรักษาง่าย(ในกรณีที่ใช้แบบลามิเนตเท่านั้น แบบอื่นจะกลัวการลาก กลัวรอยขูด) เสีย..ต้องทำการเท Topping ก่อนทำการปู จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่ได้คิดไว้อีก แพง กลัวน้ำตามขอบ เดินแล้วจะรู้สึกถึงความไม่เรียบของพื้นปูน
เพดาน
ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่เรามองเห็นทุกครั้งที่เราล้มตัวลงนอน จึงไม่ควรตกแต่ง เพดาน ให้มีลวดลาย ที่วิจิตรพิสดาร มากเกินไป เพราะจะทำให้เมื่อใน เวลาอัน รวดเร็ว แต่ถ้าบนเพดานมีคิ้ว หรือลวดลาย ดอกไม้อยู่แล้ว ก็ให้กลบเกลื่อนด้วย การทาสีอ่อนกว่าปกติ
โดยมาตรฐานทั่วๆไป จะอยู่ที่ 2.70 - 3.00 เมตร ถ้าเกิน 3 เมตรถือว่าสูง ต่ำกว่า 2.70 เมตรก็ถือว่าต่ำ แต่เพดานสูงยังไงก็ดีกว่าเพดานต่ำ เพราะเพดานที่ต่ำเกินไป จะแก้ไขยาก หรือทำไม่ได้เลย การพิจารณาความสูงต่ำของเพดาน จะต้องดูความเหมาะสมของรูปแบบบ้าน และห้องต่างๆภายในบ้านด้วย เพดานที่ต่ำเกินไป ไม่ควรทำเป็นห้องนอนอยู่แล้ว เพราะจะเพิ่มแรงกดทับ ทำให้ผู้นอนรู้อึดอัด นอนหลับไม่สบาย
ผนังห้อง
ปกติการเลือกใช้สีทาห้องหรือวอลล์เปเปอร์ มักจะเลือก สีอ่อนๆ และให้เข้ากับสีของผ้าม่าน แต่ปัจจุบันสีทาบ้าน วอลล์เปเปอร์ และวัสดุปิดผนังอื่นๆ มีมากมายหลายชนิด การเลือกใช้สีจึงไม่จำเป็นต้องใช้ เพียงแต่สีอ่อนๆเท่านั้น เราสามารถที่จะคิดสร้างสรรค์ การตกแต่งห้องได้ อย่างไม่สิ้นสุด การเลือกใช้วอลล์เปเปอร์ให้เข้ากันได้ กับวัสดุอื่นๆ ในห้อง ควรจะทำให้เป็นธรรมชาติ โดยการเลือกใช้ลาย ที่ใกล้เคียงกันผ้าม่านหรือ การตกแต่งส่วนอื่นๆ เป็นสำคัญ แต่ถ้าไม่ต้องการใช้วอลล์เปเปอร์ และไม่ต้องการ ทาสี อาจใช้วิธีอื่นแทนได้ เช่น สแตนชิน การวาดลวดลายแทนได้สำหรับการทาสีนั้น ได้มีวิวัฒนาการก้าวหน้าอย่างมาก ในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีสีต่างๆ ที่ผสมเสร็จ เรียบร้อยแล้ว เป็นสีสำเร็จรูปพร้อมที่จะทาผนังได้ทันที และยังมีคุณสมบัติที่ทนทาน ต่อสภาพดินฟ้าอากาศ มากยิ่งขึ้น ห้องที่มีขนาดเล็ก และมีเพดานต่ำเกินไปไม่ควรติด วอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลาย แต่อาจพรางตา โดยการทาสี ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสูงให้กับห้องได้อย่างดี
หน้าต่าง - ผ้าม่านในห้องนอน
ห้องนอน ม่านในห้องนอนต้องสามารถบังแดดและป้องกันเสียงได้ดีควรใช้ม่านที่ช่วยบังแสงแดด ที่จะส่องเข้าห้องในตอนเช้าและ บดบังสายตาจาก ภายนอกได้ดี ทั้งนี้ควรเลือกโทนสีม่านให้กลมกลืนกับสีห้องและเฟอร์นิเจอร์ เน้นโทนสีเย็นตาดีกว่าสีโทนร้อนที่ดูอึดอัดเกินไป
ที่เก็บของ
บ้านที่มีเนื้อที่น้อย โดยเฉพาะที่ว่าง สำหรับ เก็บของ ในห้องนอนนั้น ถือว่ามีความสำคัญ สิ่งที่ควรจะคำนึงถึง ก็คือ การจัดเก็บของ ให้เป็น ระเบียบเรียบร้อย ไม่รกรุงรัง และควรหมั่นสำรวจข้าวของ ที่เก็บไว้บ้างว่า ยังมีอะไรบ้าง ที่พอจะนำมาใช้ได้หรือ เก็บทิ้งไปได้ เพื่อเป็นการ เตรียมที่ว่าง สำหรับสิ่งของชิ้นใหม่ ที่จะซื้อหาเข้ามา เพิ่มความงาม และประโยชน์ ให้กับห้องนอน
วิธีเก็บของที่ง่ายที่สุด คือ การทำชั้นวางของ ห้องนอน ที่มีลักษณะแคบ และยาว ควรสร้างชั้นวางของ ไว้ที่ปลาย ด้านหนึ่ง ของห้องด้านล่าง จัดเป็นโต๊ะทำงาน มีลิ้นชัก สิ่งของที่วางบนชั้น ควรจะเป็นส่วนหนึ่ง ของการจัด ตกแต่งห้องด้วย
นอกจากการทำชั้นวางของแล้ว เตียงนอนก็เป็นจุดหนึ่ง ที่เราควรจะ นำมา พิจารณา เนื่องจากใต้เตียง อาจจะมีเนื้อที่ ใช้เก็บของได้ โดยทำลิ้นชัก ติดเข้าไป ใต้เตียง และควรเจาะร ูระบายอากาศ เอาไว้ด้วย หรืออาจจะทำได้ อย่างง่ายๆ โดยการวางกล่องที่ติดล้อ ให้เลื่อนได้ง่าย สำหรับเสียง 2 ชั้นที่ใช้ในวัยเด็กนั้น ควรเลือกซื้อ แบบที่มีระบบ ไม่ติดถาวรตายตัว เพราะจะได้ดัดแปลง เป็นเตียงเดี่ยวได้ และใช้พื้นที่ ใต้เตียง เป็นที่เก็บของ ได้ในตัว
ห้องนอนที่มีขนาดเล็กมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับเนื้อที่เสมอ เพราะบางครั้งภายใน ห้องมีพื้นที่ไม่เพียงพอ สำหรับการเปิดประตูเข้าไป จึงควรเปลี่ยน จากประตู มาเป็นการใช้มู่ลี่ม้วนเก็บขึ้นด้านบนได้มากั้นแทน หรือจะใช้ประตู ที่เปิดออกด้านนอก ห้องแทนก็ได้
เตียง
เป็นอุปกรณ์สำหรับการนอน โดยที่นอนเป็นส่วนที่รองรับร่างกาย หมอนรองรับศีรษะ ส่วนผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนใช้สำหรับส่วนป้องกันความสกปรก ขนาดที่นอนมีตั้งแต่ 3ฟุต 4 ฟุต 5ฟุต และ 6 ฟุต โดยที่มีความหนามาตรฐาน เท่ากันคือ 6 นิ้วและ 8 นิ้ว ซึ่งก็จะมีการบุวัสดุที่แตกต่างกันคือ ฟองน้ำ ให้ความยืดหยุ่น ความนุ่ม แต่เสื่อมสภาพเร็ว ฟองน้ำอัด เป็นฟองน้ำผสมสารเคมีทำให้มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น ใยมะพร้าว ให้ความแน่น ไม่บิดงอ แต่มีน้ำหนักมาก มักมีปัญหาเรื่อง ความชื้น เชื้อรา และการผุสลาย ยางพารา หรือฟองยาง มีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ แต่มีกลิ่นยางรุนแรง แต่จะเสื่อมเร็วหากโดนความร้อน และยังดูดความร้อนอีกด้วย ใยมะพร้าวฉีดยางพารา มีความแข็งแรงน้ำหนักเบา กว่าใยมะพร้าว สปริง ให้ความยืดหยุ่นสูง รับน้ำหนักได้ดี (100 กก./1ตร.ฟุต) มีน้ำหนักมาก นุ่น ใยธรรมชาติจากต้นนุ่น ซึ่งเป็นที่นิยมมากในสมัยก่อนให้ความยืดหยุ่นดีแต่มักเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น โดยวัสดุเหล่านี้ ผู้ผลิตมักนำมาใช้ประกอบร่วมกันเป็นเตียงโดยทำเป็นชั้นๆ ซึ่งเป็นการรวมข้อดีของแต่ละวัสดุไว้ด้วยกัน
เครื่องนอน อันประกอบไปด้วย ผ้านวม ผ้าปูที่นอน หมอน และผ้าคลุมเตียง ผ้าปูที่นอนก็มีขนาดแตกต่างตามขนาดของเตียง โดยมีแบบเรียบ (Flat) และ แบบรัดมุม (Fitted) ซึ่งง่ายต่อการปูกว่า มีขายแบบเป็นชุด ผ้านวมเข้าชุดที่ใช้คลุมเตียงและห่มได้ ในปัจจุบันก็ได้มีนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาเช่น การเคลือบสารกันเปื้อน เช่น เทฟลอน (Teflon) นอกจากนั้นยังมีการใช้สารต่อต้านการฝังตัวของเชื้อโรค (Microban) ควบคู่กับสารต่อต้านไรฝุ่น (Anti-Dustmite) อีกด้วย โดยในปัจจุบันก็มีรูปแบบให้เลือกมากขึ้น และทำจากหลายวัสดุ เช่นไหมผสม ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าฝ้ายผสมใยสังเคราะห์
ผ้านวม
ผ้าห่ม (Blanket) มี 3ประเภทหลัก คือ ฝ้าย 100 เปอร์เซ็นต์ ผ้าแพร และ ผ้าอะครีลิก ซึ่งทำจากใยสังเคราะห์และก่อให้ การแพ้ และเป็นอันตรายเนื่องจาก ติดไฟง่าย ส่วนของผ้าแพร เหมาะกับสภาพอากาศร้อน โดยที่ความนุ่มเนียนของผ้าขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื่อแพรที่มีคุณภาพแตกต่าง กันไป ผ้านวม (Comforter) ใช้ได้ทั้งคลุมเตียง และให้ความอบอุ่น โดยวัสดุที่ใช้บุ อาจเป็นนุ่น ฝ้าย หรือใยสังเคราะห์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้แพ้เกสรดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีผ้านวมแบบโบราณ (QUILT) เป็นงานฝีมือ
นอกจากใช้ห่มเพื่อให้ความอบอุ่นแล้ว ยังใช้เป็น ผ้าคลุมเตียง เพื่อความสวยงาม และยังเป็นการ ประหยัดอีกด้วย สำหรับวัสดุที่ใส่ ไว้ข้างใน ผ้านวม มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ วัสดุธรรมชาติ ได้แก่ พวกฝ้าย หรือนุ่น และวัสดุประเภทเส้นใยสังเคราะห์ ผ้านวม ที่ทำจาก วัสดุธรรมชาติ จะมีราคาถูกกว่า วัสดุประเภท เส้นใยสังเคราะห์ แต่เส้นใยสังเคราะห์ จะเหมาะ สำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือผู้ที่แพ้ เกสรดอกไม้ และยังซักง่ายอีกด้วย ก่อนการตัดสินใจซื้อ ควรสำรวจว่า วัสดุที่อยู่ในผ้านวม เป็นชนิดเดียว กับที่ต้องการ หรือเปล่า โดยให้ดูได้ จากป้ายสินค้า ขนาดมาตรฐาน ที่มีขาย อยู่ในเมืองไทย มี 2 ขนาด คือ 90 x 108 นิ้ว และ 72 x 90 นิ้ว
ผ้าปูที่นอนและหมอน
ปัจจุบัน ผ้าปูที่นอน ทำจาก เส้นใยที่เป็นส่วนผสม ของโพลีเอสเตอร์ กับผ้าฝ้าย ซึ่งสามารถตาก ให้แห้งได้ง่าย สำหรับผ้าฝ้ายบริสุทธิ์ จำเป็นจะต้องรีดให้เรียบ ก่อนนำไปใช้ ผ้าปูที่นอนสีเรียบๆ เราสามารถจะตกแต่งเพิ่ม ด้วยการปูผ้าสีเรียบ ไว้ด้านล่าง แล้วเลือกผ้า ที่มีสีตัดกัน มาปูที่นอนที่มีสีสัน และสวยงาม เพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องนอน
ผ้าคลุมเตียง
หาซื้อได้ตามท้องตลาด โดยเลือกให้สีและลาย เข้าได้กับ สไตล์ การตกแต่งห้อง หรืออาจจะออกแบบเอง ก็ได้ ประโยชน์อื่นจาก การใช้ ห้องนอน เราสามารถดัดแปลงให้ ห้องนอน เป็น ห้องนั่งเล่น หรือต้อนรับเพื่อนฝูง ที่สนิทสนมได้ด้วย การตกแต่ง เปลี่ยนแปลง และ เพิ่มเติมบางสิ่ง บางอย่าง ให้กับห้อง ถ้าเป็นห้องที่มีเนื้อที่จำกัด จนไม่สามารถแยก ส่วนนั่งเล่นออกได้ เราอาจจะใช้เตียงเป็นที่นั่งเล่น เพียงแต่เราใช้ ผ้าคลุมเตียง ที่รัดกุม คลุมเตียง ให้เรียบร้อย แล้วหา หมอนอิง ที่มีสีสันหลากหลาย มาประดับ เท่านี้เราก็จะได้ ที่นั่งเล่น ที่แสนสบาย
ผนังห้อง
ปกติการ เลือกใช้สีทาห้องหรือวอลล์เปเปอร์ มักจะเลือก สีอ่อนๆ และให้เข้ากับสีของผ้าม่าน แต่ปัจจุบันสีทาบ้าน วอลล์เปเปอร์ และวัสดุปิดผนังอื่นๆ มีมากมายหลายชนิด การเลือกใช้สีจึงไม่จำเป็นต้องใช้ เพียงแต่สีอ่อนๆเท่านั้น เราสามารถที่จะคิดสร้างสรรค์ การตกแต่งห้องได้ อย่างไม่สิ้นสุด การเลือกใช้วอลล์เปเปอร์ให้เข้ากันได้ กับวัสดุอื่นๆ ในห้อง ควรจะทำให้เป็นธรรมชาติ โดยการเลือกใช้ลาย ที่ใกล้เคียงกันผ้าม่านหรือ การตกแต่งส่วนอื่นๆ เป็นสำคัญ แต่ถ้าไม่ต้องการใช้วอลล์เปเปอร์ และไม่ต้องการ ทาสี อาจใช้วิธีอื่นแทนได้ เช่น สแตนชิน การวาดลวดลายแทนได้สำหรับการทาสีนั้น ได้มีวิวัฒนาการก้าวหน้าอย่างมาก ในปัจจุบันนี้ ซึ่งมีสีต่างๆ ที่ผสมเสร็จ เรียบร้อยแล้ว เป็นสีสำเร็จรูปพร้อมที่จะทาผนังได้ทันที และยังมีคุณสมบัติที่ทนทาน ต่อสภาพดินฟ้าอากาศ มากยิ่งขึ้น ห้องที่มีขนาดเล็ก และมีเพดานต่ำเกินไปไม่ควรติด วอลล์เปเปอร์ที่มีลวดลาย แต่อาจพรางตา โดยการทาสี ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสูงให้กับห้องได้อย่างดี
การจัดห้องนอนมีผลต่อ "ความรัก" และ "การครองคู่"
การจัดห้องนอนมีผลต่อ "ความรัก" และ "การครองคู่" อยากให้รักแนบแน่น ชีวิตคู่ยืนนาน จัดฮวงจุ้ยห้องนอนให้ส่งเสริมกันดีกว่า1. เตียงนอน ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ เตียงนอนไม่ควรวางอยู่ใต้คานเปลือย และเตียงนอนไม่ควรวางข้างตู้ขนาดใหญ่ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้พักผ่อน
2. แสงภายในห้อง ไม่ควรจะสว่างจ้าเกินไป (หยาง) หรือสลัวทึมเกินไป (หยิน) และอย่าลืมเรื่องเสียงรบกวนด้วย เพราะจะทำให้คุณและคู่รักหงุดหงิดได้
3. ถ้าห้องนอนของมีหน้าต่างกระจกใส ที่สามารถชมวิวสวยๆ นอกบ้านได้ ไม่ควรวางเตียงติดหรือใกล้กระจกมากเกินไป แม้ว่าคุณอยากจะนอนชมวิวภายนอกใจจะขาด เพราะพลังที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก แม้จะไม่ทำให้คุณกับเขามีเรื่องมีราวถึงกับต้องเลิกรากัน แต่ก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับหรือฝันร้ายอยู่เรื่อยๆ ไม่ควรวางกระจกไว้ตรงกับเตียง เพราะจะทำให้เสียสุขภาพ
4. ใต้เตียงนอน ไม่ควรเอาของที่ไม่ใช้แล้วไปเก็บไว้ โดยเฉพาะของที่แตกหักยับเยินห้ามเด็ดขาด! แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีที่จะไว้ของแล้ว ก็ให้เลือกเก็บแต่ของใหม่ๆ ที่สำคัญต้องจัดให้เป็นระเบียบ ถ้าใต้เตียงรกมากๆ หรือเก็บของหักๆไว้ จะทำให้คุณหรือหวานใจมีสุขภาพไม่แข็งแรง แถมยังมีปากเสียงกันได้บ่อยๆ ด้วย
5. หน้าต่างห้องนอน ควรใช้ม่านบังตามากกว่ามู่ลี่กันแดดที่ดูแข็ง ไม่มีความพลิ้วไหวเหมือนกับผ้า เพราะห้องนี้ต้องการบรรยากาศที่นุ่มนวล ไม่ใช่ความเป็นงานเป็นการมากนัก เชื่อกันว่าถ้าใช้ม่านบังตาติด จะช่วยเสริมโชคเรื่องความรัก
6. หาแจกันดอกไม้ มาวางไว้ในห้องนอนสักหนึ่งอัน หรือจะเป็นกระถางต้นไม้ก็ได้ กระถางควรเป็นสีขาว ส่วนต้นไม้ให้เป็นสีแดงหรือสีชมพู จะช่วยเพิ่มพลังรักให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการนำต้นไม้ใหญ่ไว้ในห้องนอน
7. หัวเตียงและผนังด้านหัวเตียง สามารถออกแบบให้สวยงามได้ ถ้าเตียงตั้งตรงกับประตูทางเข้าห้องนอน ให้แขวนคริสตัลไว้ระหว่างเตียงและพื้นที่ส่วนนั้น
8. อย่าหันหัวเตียงไปทางห้องน้ำเป็นอันขาด ดวงความรักที่กำลังรุ่งโรจน์อาจจะจะพุ่งลงเหวได้ง่าย เพราะจะต้องมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันไม่หยุดหย่อน
9. ไม่ควรหันปลายเท้าให้กับประตูห้องนอน เพราะเป็นสัญลักษณ์การนอนของคนตาย ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง หากปลายเตียงหันไปทางประตูห้องนอนพอดี จะมีเรื่องเดือดร้อนใจในครอบครัว สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง อาจมีคนเจ็บป่วยอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในบ้านจะลดน้อยลง ถ้าสุดจะเลี่ยง ก็ให้แก้ไขง่ายๆ ด้วยการติดกระจกบานเล็กๆไว้ที่ปลายเตียง เพื่อสะท้อนพลังอันเลวร้ายออกไป
10. พื้นห้องนอนควรเป็นสีพื้นเรียบๆ อาจมีลวดลายสบายตาได้บ้าง แต่สีพื้นสีเดียวไปเลยจะดีที่สุด หากปูพรม อย่าเลือกพรมที่มีลวดลายฉวัดเฉวียนน่าเวียนหัว เพราะจะส่งผลให้ความรักของคุณวุ่นวาย
11. อย่าใช้ผ้าห่มสีขาวเพราะหากนำมาคลุมร่าง จะเหมือนกับสัญลักษณ์ของคนตาย ผ้าปูที่นอนสีขาวแม้จะดูสะอาดสะอ้าน แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องนอนนัก สีขาวโพลนจะส่งผลให้พลังความรักกระจัดกระจาย เลือกผ้าปูที่นอนที่มีสีจะดีกว่า
12. หาผ้าที่ทอด้วยด้ายสีทองหรือผ้าที่เป็นสีทองวางไว้บนเตียง เนื้อผ้าที่ส่องประกายแวววาว จะช่วยให้คุณสร้างบทรักบนเตียงได้ละเมียดละไมหวิวไหวยิ่งขึ้น
13. ถ้าช่วงไหนอารมณ์ร้อน อาจจะจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อน จนพานโมโหคนรักบ่อยๆ ให้หาชามสวยๆ ใส่ก้อนหินหรือคริสตัลวางไว้ใต้เตียงนอน จะช่วยทำให้อารมณ์เย็นลง
14. อยากให้ความรักของคุณมั่นคง ให้หาหินควอตซ์ สีขาวใส ก้อนใหญ่พอประมาณ มาวางไว้ใต้เตียง
15. อย่าติดหลอดไฟที่ให้แสงส่องเป็นลำลงมาที่เตียงเป็นอันขาด เพราะความรักของคุณจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง น่าปวดหัว ถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้แขวนสร้อยลูกปัดที่ปลายเตียง เพื่อซึมซับพลังงานที่ขัดแย้ง ตั้งโคมไฟสว่างๆ ไว้บริเวณที่หัวเตียง เพื่อกระจายพลังงาน แทนการเปิดไฟที่ส่องมายังเตียงนอนโดยตรง ตั้งโคมไฟโทนสีแดง ส้ม หรือชมพู ไว้ในห้องนอนด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะทำให้โชคดีด้านความรัก
16. หากคุณกำลังกังวลว่าเขากำลังจะมีกิ๊กหน้าใส ให้เปลี่ยนม่านหน้าประตูห้องนอน เป็นม่านที่ร้อยด้วยลูกปัด เชื่อกันว่าลูกปัดจะช่วยเก็บพลังงานรักให้อยู่เป็นที่เป็นทางไม่วอกแวกไปที่ อื่น
17. หากเตียงนอนอยู่กึ่งกลางระหว่างประตูสองด้าน เช่น ประตูเข้าห้องและประตูห้องน้ำ ให้ย้ายตำแหน่งของเตียง หรือไม่ก็หาฉากสวยๆ มากั้น เพื่อให้พลังงานความรักนั้นรวมกันเป็นหนึ่ง
18. ควรใช้เตียงที่ทำจากไม้ เพราะเตียงนอนที่ทำจากโลหะนั้น เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของคุณ และพยายามนำเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรศัพท์มือถือ ออกห่างจากเตียงของคุณ