บ้านสไตล์กระท่อม
บ้านสไตล์กระท่อม หรือ คอตเทช สไตล์เป็นบ้านที่มีรูปทรง ที่ดูอบอุ่นให้ความประทับใจทุกครั้งที่เห็น เหมาะที่จะเป็นบ้านพักผ่อน อันสุขสงบ บ้านซึ่งให้คุณหลีกลี้จากสภาพแวดล้อม ที่จำเจของชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็น กระท่อมน้อยริมทะเล บนภูเขาใน ชนบทหรือแม้แต่กระท่อม น้อยกลางเมือง
มีหลายๆ ท่านที่ชอบไอเดียของบ้านสไตล์กระท่อม ได้นำมาสร้างเป็นบ้านสำหรับพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ เป็นสถานที่ฟอกปอดให้ได้รับ อากาศบริสุทธิ์ อย่างเต็มที่ได้นอนหลับสบายเต็มอิ่ม นอนอ่านหนังสือ หรือชมนกชมไม้ได้ทั้งวัน ได้ขุดดินทำสวนอย่างเป็นอิสระ บ้านสไตล์กระท่อมจึงเป็นบ้านที่ไม่เน้น ความใหญ่โตหรูหรา แต่เป็นบ้านที่คุณสามารถดูแลได้ด้วยตัวเองเนื้อที่ไม่ต้องมากนัก มีอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกครบครัน และประดับตกแต่งด้วย วัสดุที่คงทนราคา ไม่ต้องแพง แต่มีรายละเอียด และความประณีตพิถีีพิถันของช่างผู้ชำนาญ บ้านทรงกระท่อม จะเป็นบ้านที่แสดงออกถึง บุคลิกลักษณะของตัวคุณเองอย่างเต็มที่ เพราะทุกอย่างของบ้าน เป็นสิ่งที่คุณได้เลือกสรรให้เหมาะกับ ชีวิตและอารมณ์ของคุณอย่างละเมียดละไม
หลายท่านอาจรู้สึกว่าบ้านสไตล์กระท่อมนี้ดูจะเหมือนๆ กับบ้านสไตล์คันทรีที่ได้เคยนำเสนอไปแล้ว ในความเป็นจริง ก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะรากฐาน ของบ้านทรง กระท่อมนี้ ก็มาจากบ้านสไตล์คันทรีนั่นเอง แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือเรื่องขนาดของตัวบ้าน วัสดุและฝีมือของช่าง สไตล์คันทรี นิยมใช้วัสดุที่เป็น ธรรมชาติและหาได้ในท้องถิ่นแถบนั้น ส่วนฝีมือช่างก็อาจจะไม่ประณีตในรายละเอียดมากนัก ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างได้พัฒนามากขึ้น และกลายเป็นระบบ อุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ บ้านสไตล์คันทรีที่แท้จริงจึงมักสูญหายไป และทดแทนด้วยสไตล์คันทรีที่ใช้วัสดุอย่างใหม่ แต่ยังคงไว้ด้วยการตกแต่ง ที่แสดงถึงจารีตประเพณีของท้องถิ่นนั้น
บ้านกระท่อมในยุคต้น เกิดขึ้นตั้งแต่มนุษย์เราเริ่มคิดที่จะสร้างที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง เริ่มจากกระท่อมไม้มุงด้วยหลังคาจาก หรือแฝก พัฒนามาเป็น กระท่อมของชาวนา ที่เรียบง่ายอยู่สบาย และมีวิวัฒนาการข้ามศตวรรษมาสู่บ้านกระท่อมในยุคโลกาภิวัฒน์ที่มีเสน่ห์น่ารักสำหรับ การมาใช้ชีวิตครอบครัว ที่หลบจากความสับสนของชีวิตประจำวันมาสู่ความเงียบสงบและอบอุ่นในกระท่อมน้อยนี้
จากศตวรรษหนึ่งสู่ศตวรรษหนึ่ง บ้านทรงกระท่อมก็ได้แปรเปลี่ยนรูปร่างไปหลายแบบตามอิทธิพลของวัฒนธรรมและสังคมในแต่ละสมัย จากกระท่อมหลัง คาแฝก ทรงอังกฤษ (English cottage) มาสู่ กระท่อมทรงคลาสสิกเคปคอต (Cape Cod cottage) และพัฒนามาเป็นบ้านทรงกระท่อม ที่มีรูปแบบเป็น บ้านอยู่อาศัยอันทันสมัย ของผู้คนในยุคปัจจุบันกระท่อมอังกฤษ (English cottage) รากฐานของบ้านทรงกระท่อมได้เริ่มต้นขึ้น ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 จากการเป็นบ้านในสไตล์ระดับกลาง ที่ี่คั่นระหว่างปราสาทราชวังอันหรูหรา ของเหล่าขุนน้ำขุนนาง และบ้านชาวนา ที่ยากจนคอตเทชเป็น บ้านของชาวชนบท ที่มีฐานะปานกลางมีขนาดพอเหมาะและมีการตกแต่งที่งดงามเหมาะกับฐานะ พื้นที่ใช้สอยเป็นบ้านขนาดสองชั้น ชั้นบนเป็นส่วนห้องนอน มีหลังคาสูงชัน และมีขนาดกว้างขวางกว่ากระท่อมมุงแฝก ในช่วงปลายทศวรรษ ค.ศ. 1800 กระท่อมในอังกฤษ ก็ได้แปรรูปโฉมเป็น กระท่อมน้อย ที่ได้รับการประดับตกแต่งราวกับภาพเขียน ด้วยเครื่องตกแต่งอย่างในยุคกลางคือ หน้าต่างกระจกแบ่งซอยเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีกันสาดเล็กๆ คลุมหน้าต่าง หลังคาสูงชัน เป็นบ้านที่ชวนฝันอย่างในเทพนิยาย
บ้านทรงกระท่อมในสหรัฐอเมริกา กระท่อมรุ่นแรกเริ่มจากการก่อสร้างของชาวอังกฤษที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่แมทซาชูเสทส์และได้นำเอาวัฒนธรรม กับรูปแบบของบ้านทรงกระท่อมติดมาจากถิ่นฐานเดิมของตนจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เราพบว่า ชาวอังกฤษมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่พลีมัท โดยสร้างกระท่อมที่มีขนาดพื้นที่ประมาณ 440 ตารางฟุตหรือประมาณ 40 ตารางเมตร บางครั้งก็น้อยกว่านั้นตามแต่ที่ครอบครัวของตนจะมีกำลังสร้างได้
รูปแบบของบ้านกระท่อมสร้างขึ้นจากไม้โอ๊คและหิน หลังคาคลุมด้วยอ้อหรือฟาง ฝาทำด้วยไม้โอ๊คหรือไม้ขัดแตะ และใช้แผ่นไม้ปิดอีกชั้นหนึ่งบางครั้ง ฉาบผิวด้วย ดินทรายและหญ้าเพื่อป้องกันน้ำซึมเมื่อฝนตกหนัก
กระท่อมทรงเคปคอต ช่วงระยะเวลา 10 ปีต่อจากนั้น ผู้คนที่มาตั้งถิ่นฐานใหม่ต่างยุ่งอยู่กับการสร้างบ้านเรือนของตน นับตั้งแต่บ้านที่เรียบง่าย สมถะจนถึง แบบบ้านที่งดงามหรูหราโดยมีรูปแบบพื้นฐานมาจากบ้านกระท่อมพื้นถิ่นของอังกฤษซึ่งเปรียบเสมือนกับ แผ่นดินแม่ของตนนั่นเอง จนมาถึงช่วงปลาย ศตวรรษที่ 18 บ้านทรงกระท่อมได้เริ่มปรากฏโฉมอย่างโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ในสหรัฐอเมริกา ด้วยรูปทรง
บ้านที่มีหลังคาเดี่ยว ทรงจั่วสูงชัน ซึ่งเป็นรูปแบบของบ้านกระท่อมทรงเคปคอตที่คงอยู่ในปัจจุบัน
ผู้สร้างกระท่อมที่เคปคอต เป็นกลุ่มแรก คงไม่คิดว่ากระท่อมหลังน้อยนี้ จะกลายเป็นต้นแบบของบ้านทรงกระท่อมในสหรัฐฯ เพราะในสมัยนั้นที่เคปคอต ดูจะเป็นแห่งเดียวที่มีวัสดุก่อสร้างครบครัน ซึ่งแตกต่างจากมลรัฐอื่นๆ ในสหรัฐ กระท่อมเคปคอตปรากฏ โฉมออกมาได้อย่างน่ารักด้วยสัดส่วน ที่พอเหมาะของ ช่วงเสา 10 ฟุต x 10 ฟุต ที่สามารถลากต่อกันลงบนพื้นทรายแสดงแปลนและนำ ไปสร้างณสถานที่ต่างๆได้โดยใช้แบบเดียวกัน กระท่อมเคปคอตจึง กลายเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานการสร้างบ้านในสหรัฐฯ กระท่อม เคปคอต ประกอบด้วย โถงอเนกประสงค์ 1 ห้อง และเฉลียงทางเข้า เล็กๆพร้อม ด้วยเตาผิง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวใจของบ้านเลยทีเดียว ส่วนฝาด้านนอกทำด้วยไม้ตีเกล็ดตามนอน หน้าต่างบานเลื่อนขึ้นลงแบ่งซอย เป็นลูกฟักเล็กๆมีสัดส่วนอยู่ที่ 12 ช่อง สำหรับบานล่างและ 8 ช่อง สำหรับบานบน มีกันสาดเล็กๆเหนือหน้าต่าง เพราะเนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีลมแรงหากมีกันสาดใหญ่ก็จะทำให้เกิดความเสีย หายเวลามีพายุได้เมื่อกระท่อมคลาสสิกหลังนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ และพันธุ์ไม้ที่เลื้อยพันอยู่โดยรอบไม่มีผู้ใดจะปฏิเสธได้ถึง ความงามน่ารักมีเสน่ห์ของ กระท่อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านทรงกระท่อมได้รับ ความนิยมอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยพื้นฐานของบ้านทรงกระท่อม ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ได้ทำให้บ้านกระท่อมมีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม ในยุคปัจจุบัน และได้กลายเป็นสไตล์บ้าน ที่ได้รับความนิยมมาก สไตล์หนึ่ง บ้านทรงกระท่อมได้ถูกดัดแปลง มาสร้างอยู่ในเมือง เพราะความกะทัดรัดของ บ้านช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งยังประหยัดเงินค่าก่อสร้างบ้านกระท่อม สามารถจะสร้างสรรค์ให้มีเสน่ห์ดึงดูดใจ ได้ไม่รู้ลืมได้ไม่แพ้ คฤหาสน์หลังใหญ่ๆ ด้วยการตกแต่งที่ปลุกเร้าความรู้สึก ที่อบอุ่นเป็นกันเองตั้งแต่บรรยากาศ ของธรรมชาติ ภายนอกตัวบ้านมาจนถึงการตกแต่งภายใน