30 วิธีเอาชนะโชคชะตา How to control your Destiny
เกล็ดจาก คำนำ " 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา " ของบัณฑิต อึ้งรังสี
หนทางที่สามารถก้าวไปถึงความสำเร็จ คือ ทำ ทำ ทำ และก็ ทำ
การที่จะช่วยให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้น อาจจะต้องมีพลังความช่วยเหลือ มาจากภายนอก ( จากบุคคลผู้มีอำนาจ จากเพื่อนๆ หรือจากโชค ....)
นอกจาก จะต้องเก่งสู้เขาได้ หรือเก่งกว่า แล้ว จะต้องโชคดีกว่า จะต้องมีพลังอะไรต่างๆ มาคอยช่วยหนุน ประคับประคอง และผลักดันอยู่เสมอ
คุณเป็น " คนโชคดี " หากคุณประสบความสำเร็จ หรือได้สิ่งที่ต้องการ หรือมีความสุขได้ง่ายและเร็วกว่าคนอื่น
" โชคร้าย " ก็เหมือนมรสุมที่คอยขัดขวางการเดินทาง ทำให้ถึงเป้าหมายได้ยากขึ้น ถ้าท้อแท้และล้มเลิกยอมแพ้ ก็อาจไม่ถึงเป้าหมายนั้นเลย
รู้ เข้าใจ เห็นด้วย แต่เมื่อไม่ได้นำไปใช้ ก็ลืม
รู้ เข้าใจ เห็นด้วย แต่เมื่อไม่ได้นำไปใช้ อย่างนานเพียงพอ อย่าด่วนสรุปว่า ไม่ได้ผล
สิ่งที่จะช่วยความจำได้ดีที่สุด คือ การทำอยู่เรื่อยๆ จนติดเป็นนิสัย
กฎ " 30 วิธีเอาชนะโชคชะตา "
กฎข้อที่ 1 คนโชคดี รู้ว่า " โชค " สามารถเปลี่ยนแปลงได้
- ไม่มีอนาคตใคร ที่ฟ้าลิขิตมาแล้ว ทุกอย่างในอนาคตเปลี่ยนแปลงได้
- โชคที่ฟ้าลิขิตมานั้น มันดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่คนที่โชคดีจริงๆ นั้น สามารถเปลี่ยนสิ่งที่ฟ้าให้มา เป็นสิ่งที่ดีได้ทั้งหมด
- จะเปลี่ยนโชคนั้นได้ คุณต้องเปลี่ยนความคิดของตนเองตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปว่า โชคเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้
กฎข้อที่ 2 คนโชคดีเชื่อว่าตัวเขาเองสามารถเปลี่ยนแปลงโชคนั้นได้
- เราสร้างอนาคตของเราเอง แต่ไปเรียกมันว่า "โชคชะตา" (เบนจามิน ดิสเรลี)
- สิ่งที่ควบคุมโชคเหล่านั้น อยู่ในมือคุณทั้งหมด คือตัวคุณเอง
- การจะเรียนรู้จัก วิธีการควบคุมโชค การเป็นเจ้านายโชค และการกำราบโชคให้อยู่หมัด เราต้องเชื่อว่า เราเองเป็นผู้รับผิดชอบในความโชคดี โชคร้าย ของตัวเราเอง และต้องไม่ปัดความรับผิดชอบไปให้ผู้อื่น หรือสิ่งอื่น
- การเรียนรู้การเป็นเจ้านายของโชค เป็นเหมือนการเรียน"ทักษะ" (Skill) อย่างหนึ่ง ที่เราสามารถเรียนรู้ให้เก่งได้
- ข้อดีของการฝึก "ทักษะ" คือ ยิ่งเราเก่งมากเท่าใด เราก็ควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้นเท่านั้น
- เราต้องควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แทนที่จะให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นควบคุมเรา
- ยิ่งเราเก่งในเรื่อง "ทักษะในการควบคุมโชค" มากแค่ไหน ไม่ว่าสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น ร้ายหรือดี เราสามารถเปลี่ยนสถานการณ์นั้นให้เป็นดี หรือดีกว่า ได้ทั้งหมด
กฎข้อที่ 3 รู้จัก กฎพ่อ และกฎแม่ แห่งโชคลาภ
- กฎที่สำคัญที่สุดแห่งโชคลาภ คือ
- กฎแห่งเหตุและผล ( The law of cause and effect )
- กฎแห่งแรงดึงดูด ( The law of attraction )
- โลกนี้ เป็นโลกที่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่แน่นอน ตายตัว ไม่ยกเว้นใคร(ไม่ว่าคุณจะชอบมัน หรือเชื่อมันหรือไม่ก็ตาม) คนที่ฝ่าฝืนไม่เคารพกฎเหล่านี้ จะได้รับผลลัพธ์ที่ตนเองไม่ต้องการ แล้วเรียกมันว่า "โชคร้าย"
กฎข้อที่ 4 จงเคารพ กฎแห่ง เหตุและผล (กฎพ่อ แห่งโชคลาภ)
- ทุกอย่างเกิดขึ้น โดยมีเหตุ มีผล (สำหรับผลทุกอย่าง จะมีสาเหตุที่แน่นอน)
- ถ้าคุณเปลี่ยนเหตุให้ดีขึ้น ผลของคุณก็จะดีขึ้น
- การกระทำ (หรือเหตุ) ทุกอย่าง จะมีผลตามมา ไม่ว่าเราจะ เห็นมันหรือไม่ และไม่ว่าเราจะชอบมันหรือไม่ ก็ตาม
** โชค ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อะไรที่เกิดขึ้นกับเรา จะเป็นผลบางอย่างจากการกระทำ หรือความคิดของเรา ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
ข้อปฏิบัติ
ถ้าอยากได้ผล (หรือโชค) ที่ต่างไป ก็ต้องเปลี่ยนเหตุหรือการกระทำ และความคิดของเราเอง
บางทีสาเหตุนั้นอาจไม่ชัดเจน เราอาจไม่ทราบหรือไม่เข้าใจ หน้าที่ของเรา คือ หาสาเหตุนั้น
กฎข้อที่ 5 จงบูชา กฎแห่งแรงดึงดูด (กฎแม่แห่งโชคลาภ)
- (เพื่อได้) โชคคุณต้องใช้กฎแห่งแรงดึงดูด ช่วยดึง ผู้คนและสถานการณ์ ที่จะช่วยคุณให้เดินหน้าเร็วขึ้น เข้ามาในชีวิต (ไบรอัน เทรซี่ , สรอ.)
** กฎแห่งแรงดึงดูด "คุณจะดึงดูดสิ่งที่อยู่ในความคิดส่วนใหญ่ของคุณเข้ามาในชีวิต" ไม่ว่าจะเป็น คน สถานการณ์ สิ่งของ ...ฯลฯ... (กฎนี้ เป็นกฎตายตัวของโลก เหมือนกฎแห่งแรงโน้มถ่วง ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ และเชื่อมันหรือไม่ ก็ตาม)
ข้อปฏิบัติ
สิ่งเดียวที่ต้องทำ คือ ควบคุมความคิด ให้คิดแต่ในเรื่องที่ต้องการเท่านั้น (พูดถึงมัน ฝันถึงมัน หมกมุ่นอยู่กับมันตลอดเวลา) สิ่งนี้ ทำยากกว่าที่คิด เพราะจิตสำนึกของเราจะคอยคิดแต่เรื่องทางลบ
เทคนิค
ลงโทษตัวเองเล็กๆ (ทุกครั้งที่คิดในเรื่องทางลบ) เมื่อความคิดเถลไถลไปเรื่องทางลบ เพื่อเทรนให้จิตสำนึกเชื่อมความเจ็บกับความคิดทางลบ (ทำติดต่อกันอย่างน้อย 21 วัน จะเป็นการพัฒนาจิตใจให้กล้าแข็งขึ้น)
*** มีทางสองแบบ ที่จะไปถึงเป้าหมายหรือสิ่งที่ต้องการ
ทางแรก ทำงานลูกเดียว เพื่อให้ถึงเป้าหมายให้ได้ (วิธีนี้ เหนื่อยและช้า)
ทางที่สอง ขณะที่คุณ วิ่ง เข้าหาเป้าหมาย เป้าหมายนั้น ก็วิ่ง เข้าหาคุณ (วิธีนี้ เหนื่อยน้อยและเร็ว)
กฎข้อที่ 6 กำจัด ความเชื่อที่จำกัด
- คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่คนเราเลือกที่จะเป็นได้
- ที่สำคัญ ต้องคิดเป็น (ไม่เช่นนั้น ก็อยู่เหมือนคนล้มเหลว)
** ในโลกนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้ ถ้าตั้งใจและคิดอย่างถูกต้อง
มนุษย์สามารถเป็นอะไรที่ตนเองต้องการได้ทั้งนั้น เพราะมนุษย์จะพัฒนาการไป ตามที่ตนเองคิดเท่านั้น
- ถ้าคุณคิดเป็น คุณไม่ต้องพึ่งโชค แต่คุณจะสร้างโชค
- หากรู้วิธีสร้างโชคเองแล้ว อยากโชคดีแค่ไหนก็ได้ทั้งนั้น
- สร้างโชค(ดี) เป็นผู้กำราบโชค เอาชนะโชคจนอยู่หมัด ย่อมมีความรู้สึกที่แตกต่างกับการตกเป็นเหยื่อของโชค(ร้าย)
กฎข้อที่ 7 ทำตัวเป็น หมอดูที่แม่นที่สุดในโลก
- ไม่มีคนคนใดสามารถมาลิขิตชีวิตของมนุษย์ได้ คุณจะต้องกุมบังเหียนชีวิตนี้เอง
ไม่ว่าชีวิตนี้จะออกมาดีหรือไม่ดี คุณต้องเป็นผู้รับผิดชอบมันทั้งนั้น
** มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ มีความสามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ โดยการคิด และการกระทำที่ถูกต้อง
- เพราะในเมื่อมนุษย์จะพัฒนาการไปตามอย่างที่ตนคิด การคิดและการกระทำ
ในตอนนี้ จึงเป็นตัวกำหนดผลในอนาคต
- คุณมีศักยภาพในการเปลี่ยนอนาคตของตัวเอง คุณสามารถทำนายอนาคตของคุณเองได้ ถ้าคุณ มุ่งพลังกาย พลังความคิด ไปที่สิ่งที่ดี ความฝันที่ยิ่งใหญ่ อนาคตของคุณก็จะไปในทิศทางนั้น (ดี / ไม่ดี)
"มนุษย์จะพัฒนาการไปตามอย่างที่ตนคิด" เป็นกฎที่แน่นอนและตายตัวของโลก เหมือน
กฎแรงโน้มถ่วง อยู่คู่โลกมาตั้งแต่มีมนุษย์ และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ใช้ได้ทุกประเทศ
ทุกสมัย ตลอดไป เป็นกฎแห่งการทำนายอนาคต
หน้าที่ของคุณ ก็คือ ทำอย่างไรที่จะเข้าใจถ่องแท้ถึงกฎนี้ เพื่อจะได้นำไปใช้ และเมื่อไหร่ที่คุณเป็นเจ้าของกฎนี้ คุณสามารถมี และเป็นอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา
กฎข้อที่ 8 คนโชคดี ตัดสินใจ ไขว่คว้าหาโชค
สุภาษิตญี่ปุ่นกล่าวไว้ว่า " วันที่คุณตัดสินใจทำ เป็นวันโชคดีของคุณ "
กฎข้อที่ 9 คนโชคดี ลงมือทำวันนี้
* เมื่อคุณรู้ว่าต้องการอะไร
คุณต้องเริ่มวางแผนเดินหน้าเข้าไปหาเป้า และทำวันนี้
(วันพรุ่งนี้ไม่เคยมา ชีวิตทุกคนประกอบไปด้วยวันนี้)
** เริ่มอะไรก็ได้ แม้ว่าเล็กเท่าใดก็ตาม เพราะการเริ่มต้นนั้นยากที่สุด
แต่เมื่อได้เริ่มแล้ว การทำต่อ จะใช้แรงและความพยายามน้อยลง
กฎข้อที่ 10 รู้จัก องค์ประกอบของโชค
เซเนกา / โรมัน / คศ. 1 , กล่าวว่า โชค คือ ความเตรียมพร้อม พบกับ โอกาส
** องค์ประกอบของโชคดี คือ
- โอกาส
- ความเตรียมพร้อม
ทั้งสองสิ่งต้องเกิดขึ้นด้วยกัน จึงจะเป็น " โชคดี "
ถ้าโอกาสมาถึง แต่เราไม่พร้อม เรียกว่า ความน่าเสียดาย
** เราต้องรู้จักสร้างโอกาส ทำอย่างไรก็ได้ให้โอกาสเกิดขึ้นกับเรามากที่สุด**
กฎข้อที่ 11 เพิ่มโอกาส โดยลองสิ่งแปลกใหม่
** สิ่งหนึ่งที่ทำได้ ที่จะเปิดโอกาสนั้นมาถึงเราได้มากครั้งที่สุด คือ ลองสิ่งใหม่ ๆ
- ถ้าการกระทำของคุณเป็นแบบเดิม ๆ คุณก็จะได้ผลแบบเดิม ๆ
** ไอน์สไตน์ ให้คำนิยาม การทำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา และหวังให้ผลมันเปลี่ยนไป ว่า " ความวิกลจริต "
- ถ้าอยากได้ผลที่แตกต่างไปในทางดี ก็ต้องลองทำสิ่งใหม่ ๆ ดี ๆ ที่เราไม่เคยทำ
หรือที่ไม่มีคนอื่นเคยทำ
- เนื่องจากโชคของคุณ ส่วนใหญ่จะมาจากผู้อื่น ดังนั้น การเจอคนใหม่ ๆ ที่ดี ๆ
ทำให้มีโอกาสที่จะประสบสิ่งดี ๆ
- ยิ่งคุณเป็นคนรู้จักคนมากเท่าไหร่ โอกาสที่คนจะนำไป หรือให้ไอเดียสิ่งดี ๆ
ก็มีเยอะมากยิ่งขึ้น แค่ไอเดียดี ๆ ไอเดียเดียว สามารถทำให้เราเป็นมหาเศรษฐีได้
กฎข้อที่ 12 เพิ่มโอกาส โดยการเอาตนเองเข้าไปอยู่ในหนทางของโอกาส
** การเอาตัวเข้าไปอยู่ในหนทางของโอกาส ก็เหมือนกับการไปรอตรงที่โอกาสมันมีสิทธิโผล่ขึ้นมาได้มาก เราควรคิดว่า สิ่งที่เราอยากได้ มันอยู่กันที่ไหนเยอะ ๆ
- การที่เราได้โอกาสมากกว่า ก็ทำให้ได้พัฒนาฝีมือได้รวดเร็วกว่า
ข้อคิด
ลองถามตนเองว่า เหตุที่เราไม่ก้าวหน้า หรือไม่มีโชค เป็นเพราะเราทำงานอยู่ในองค์กรที่ผิดหรือเปล่า ไม่เหมาะสมกับความสามารถส่วนตัว หรือเปล่า หรือตั้งร้านค้าอยู่ในสถานที่ที่ผิดหรือไม่..... (บางครั้ง แค่เปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ก็ทำให้โชคเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็ว)
กฎข้อที่ 13 เพิ่มโอกาส โดยการเพิ่มคุณค่าของตนเอง
** การเพิ่มคุณค่าให้ตนเองในทุก ๆ ทาง ทำให้เราวางตำแหน่งของตัวเราให้อยู่ในโอกาสที่คล้าย ๆ กัน คือ ดีขึ้น ดีขึ้น ยิ่งตนเองดีมากเท่าไร โอกาสที่ผ่านมาในชีวิต ก็ดีมากขึ้นเท่านั้น (โชคดี จะมีโอกาสเกิดมากขึ้น เป็นเงาตามตัว )
- กล่าวกันว่า " Birds of a Feather Flock Together "
" คนที่อยู่ในระดับเดียวกัน จะอยู่ใกล้กัน หรือเป็นเพื่อนกัน "
( คนที่ประสบความสำเร็จ ก็จะได้เพื่อน เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ )
- ยิ่งคุณเพิ่มคุณค่าให้ตนเองมากเท่าใด คุณก็จะมีเพื่อนเป็นคนที่มีค่าและประสบ
ความสำเร็จ เพิ่มขึ้นเท่านั้น
- ยิ่งคุณมีเพื่อน " คุณภาพ " มาก โชคดีของคุณก็จะเพิ่มเป็นทวีคูณ
" Like Attracts Like " สิ่งที่คล้าย ๆ กัน จะถูกดึงดูดเข้าหากัน
** อยากได้ของดี ตนเองต้องเป็นของดีด้วย
กฎข้อที่ 14 เพิ่มโอกาส โดยการออกไปเจอคน
** เวลามีโอกาสผ่านเข้ามาถึง ถ้าคนในตำแหน่งที่มีอำนาจไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยเห็นหน้าเราเลย เขาไม่สามารถจับเราชนกับโอกาสนั้นได้ เขาต้องคิดถึง คนที่โดดเด่น ( ซึ่งบางครั้ง
ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องความเก่งเสมอไป อาจเป็นความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี หรือมีความเป็นผู้นำ หรือมีผลงาน )
กฎข้อที่ 15คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
- คนที่ไม่ดี คนที่เป็นคนคิดทางลบ คนที่ชอบบอกว่า เป็นไปไม่ได้หรอก
อย่าคิดเลย คิดอะไรเกินตัว ฝันหวาน.... ส่วนใหญ่คนเหล่านี้ เป็นคนที่ไม่ค่อยจะทำอะไรที่น่าสนใจ อยู่ใกล้คนเหล่านี้นาน ๆ คุณจะคิดว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง
การที่เขาเหล่านั้นเป็นผู้แพ้ด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ไม่ควรจะมาทำให้คุณเป็นผู้แพ้ด้วย
* การอยู่ใกล้ ๆ คนที่กล้าคิดใหญ่ ฝันใหญ่ แล้วทำได้ ทำให้เราได้แรงบันดาลใจ กล้าคิด กล้าทำ
หรืออ่านหนังสือของคนที่ประสบความสำเร็จเขียนแบ่งปัน
ทำให้เราได้ความคิดใหม่ ๆ ดี ๆ โอกาสที่จะโชคดี มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ
** ถ้าคุณอยากโชคดี ชีวิตคุณควรจะห้อมล้อมตนเองด้วยคนที่เก่ง ฉลาด ประสบความสำเร็จ คิดในทางบวก
อย่าไปเสียเวลากับคนที่ชอบพูดทางลบ ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
เพราะเขาจะนำเอาโชคร้ายมาให้
กฎข้อที่ 16 เพิ่มโอกาส โดยการเอาประโยชน์ให้มากที่สุดจากสถานการณ์ปัจจุบัน (ที่ไม่ดีนัก)
* โอกาสนั้น ไม่ใช่เกิดบ้าง ไม่เกิดบ้าง หรือเกิดตามความบังเอิญ
โอกาสนั้น มีอยู่ทั่วไป แต่เราจะเห็นมันหรือเปล่า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าใจเราปิดแคบ หรือมีวิสัยทัศน์ที่แคบ ๆ เราก็จะไม่เห็นโอกาสนั้น
** คนที่โชคดี จะเป็นคนที่มองเห็นโอกาสในสถานการณ์ที่คนทั่วไปคิดว่า ไม่ดีนัก
และสามารถทำประโยชน์จากทุกสถานการณ์ (ถ้าสถานการณ์ไม่เหมือนกับที่
คาดหวังไว้ ก็จะไม่ย่อท้อ จะมองหาสิ่งดีที่เขาทำได้ในสถานการณ์นั้น)
** ในการแข่งขัน หัวสมองจะต้องเริ่มทำงานทันทีว่า ทำอย่างไร เราจึงจะโดดเด่น
จากผู้แข่งขันรายอื่น (ทำอย่างไรกรรมการจึงจะจำเราได้)
ซึ่งเมื่อหัวสมองได้พุ่งไปทำงานอย่างนั้นแล้ว จะทำให้เราสามารถเอาศักยภาพ
ทั้งหลายมาใช้ได้เต็มที่ ผลก็คือ ทำให้เราได้เรียนรู้อย่างมากมายถึงศักยภาพที่เรา
ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่
กฎข้อที่ 17เตรียมความพร้อม สำหรับโอกาสที่กำลังจะมา เสมอ
- สถานะ ชาติตระกูล และองค์อื่น ไม่สำคัญเท่าความทะเยอทะยานส่วนตัว
การใฝ่หาโอกาสและที่สำคัญที่สุด คือ การเตรียมความพร้อม
** อับราฮัม ลิงคอล์น กล่าวว่า ผมมีกฎง่าย ๆ คือ
" จงเตรียมพร้อมทุกอย่าง เหมือนกับโอกาสของเราจะมาถึงในวันนี้ "
กฎข้อที่ 18 เข้าใจว่า "โชคส่วนใหญ่ของคุณ จะมาจากคนอื่น....."
- คนอื่น ๆ เช่น ผู้ใหญ่ที่เห็นผลงานดีของเรา / เพื่อนดี ๆ ที่ช่วยเหลือในสิ่งต่าง ๆ คนอื่น ๆ ที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะช่วยเรา .....ฯลฯ.....
** เป็นเรื่องธรรมดาที่ว่า คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน จะเป็นคนที่โชคดีกว่าผู้อื่น
เป็นคนที่เพื่อนหรือผู้มีอำนาจนึกถึงเวลามีงานดี ๆ หรือมีคนดี ๆ ที่อยากแนะนำให้รู้จัก
- เมื่อไม่มีโอกาส ความสามารถอาจพัฒนาได้ช้ากว่าที่ควร
** เพิ่มสัมพันธภาพกับผู้อื่น ก่อนที่คุณต้องการขอความช่วยเหลือ
" Dig your well before you're thirsty "
กฎข้อที่ 19 เป็น "คนเก่งทางด้านมนุษยสัมพันธ์"
- การเข้ากับคนได้ดี การทำตัวให้คนรักคนชอบ เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้กันตลอดชีวิต
- ยิ่งคุณเก่งเรื่องมนุษยสัมพันธ์มากเท่าใด คุณจะยิ่งโชคดีมากขึ้นเท่านั้น
วิธีบางวิธีที่จะเก่งทางมนุษยสัมพันธ์
1. ปฏิบัติกฎทองคำ "ปฏิบัติกับผู้อื่น เหมือนกับที่เราต้องการให้เขาปฏิบัติกับเรา"
2. ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือคลาสสิคด้านการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ของ
คาร์เนกี (How to win friends and pinfluence people)
** ที่สำคัญ การปฏิบัติให้ได้ผล ต้องปฏิบัติบ่อย ๆ จนตนเองเก่ง
- หน้าที่หลักของคอนดักเตอร์ คือ การทำงานกับคน (นักดนตรี)
ไม่ใช่กับสิ่งของ (เครื่องดนตรี)
- ความสำเร็จของคอนดักเตอร์
30 % มาจากความฉลาด ความรู้ ความเก่งในศาสตร์
70 % มาจากความสามารถในการสร้างสถานการณ์ ที่ทำให้ผู้ร่วมงานทำงานได้ดีที่สุด
** ในโลกของการทำงาน ทักษะ มนุษยสัมพันธ์ จะมีความสำคัญต่อความสำเร็จ
มากกว่าความเก่งเฉพาะด้าน
กฎข้อที่ 20ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน
** การหว่าน ต้องมาก่อนการเก็บเกี่ยว
* ไม่ว่าเราหว่านอย่างไร ก็จะเก็บเกี่ยวอย่างนั้น เป็นกฎตายตัวอีกกฎหนึ่งของโลก
การช่วยเหลือผู้อื่น เป็นการหว่านอย่างหนึ่ง ที่ต้องทำก่อน และควรทำโดยไม่ต้องห่วง
การเก็บเกี่ยวหรือผลตอบแทน (ซึ่งจะมีมาแน่ ตามกฎตายตัวของโลก)
กฎข้อที่ 21 สร้างชื่อเสียงที่ดี
- ชื่อเสียง คือสิ่งที่คนอื่นพูดถึงคุณ เวลาอยู่ลับหลังคุณ
** ชื่อเสียงที่ดี จะทำให้คุณโชคดีได้อีกเยอะ เพราะจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ ได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น
กฎเหล็กที่สำคัญ ที่เราต้องพึงจำไว้
" People will do business with someone they know , Like and trust "
(คนจะทำธุรกิจกับคนที่เขา รู้จัก ชอบ และเชื่อใจ)
- ยิ่งคนจำนวนมากเท่าไหร่ที่รู้จักเราและคิดถึงเราในทางที่ดี เราก็โชคดีมากเท่านั้น
** ภารกิจที่สำคัญที่สุดของคนที่อยากโชคดี คือ เพิ่มจำนวนคนที่รู้จักเรา ชอบเรา และ เชื่อใจเรา ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
กฎข้อที่ 22 อย่าหาโชคที่การพนัน
** ในโลกของการพนันไม่มีคนโชคดี นอกจากเจ้าของกาสิโน
- ไม่มีใครโชคดีจากการพนัน ถึงแม้คุณจะเล่นได้ตอนนี้ ในที่สุดคุณก็ต้องเสีย
เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์จะไม่ยอมหยุดเล่นเมื่อกำลังได้ จะยอมหยุด
เมื่อเล่นเสียหมดตัวแล้ว หรือจนเป็นหนี้มหาศาล
กฎข้อที่ 23 อย่าแสวงโชคที่ล๊อตเตอรี่
- คนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ด้วยตนเอง ( Self-made people สร้างตัวขึ้นมาโดยสุจริต และด้วย
ความสามารถตนเองแท้ ๆ ไม่เกี่ยวกับมรดก ) จะไม่ซื้อล๊อตเตอรี เพราะเขารู้ว่า เงินได้มาจากงาน ได้มาจากไอเดีย ได้มาจากความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
กฎของโลกอีกประการหนึ่ง คือ
" You can't keep anything you don't deserve "
คุณไม่สามารถรักษาอะไรที่คุณไม่สมควรได้รับไว้ได้
** การให้การศึกษาตนเองด้านการเงิน (Financial Education)
จะทำให้คุณรู้จักการรักษาเงินนั้น และทำให้มันโตได้
กฎข้อที่ 24 อย่ามีศัตรู (ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ)
- ศัตรูแค่คนเดียว ก็สามารถทำให้ชีวิตเรามีโชคร้ายได้เยอะแยะมากมาย
เพราะศัตรูคนนั้นก็มีเพื่อน ๆ และพรรคพวก ซึ่งอาจทำให้ชีวิตเรายากลำบาก ขึ้นมาก
กฎข้อที่ 25 คนโชคดี คือ คนขยัน
เบนจามิน แฟลงคลิน กล่าวไว้ว่า " Diligence is mother of Goodluck " ความขยัน เป็นมารดาของความโชคดี
โทมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวไว้ว่า
" I am a Great Beliver In Luck ,
And I find The Harder I work ,
The More I have of It "
" ผมเชื่อเรื่องโชคเป็นอย่างมาก และผมพบว่า ยิ่งผมทำงานหนักมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งมีโชคมากขึ้นเท่านั้น "
** เมื่อเกี่ยวกับความสำเร็จแล้ว ไม่มีอะไรมาทดแทนการทำงานหนักได้
(เทคนิคบางอย่าง อาจทำให้ถึงความสำเร็จ เร็วขึ้น และง่ายขึ้น)
กฎข้อที่ 26 หาทางให้คนอื่นได้ประโยชน์ด้วย
- ยิ่งมีคนได้รับประโยชน์ (จากการรับใช้ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา) มากเท่าใร
โชคดี ก็ยิ่งมาเยือนมากเท่านั้น
** อย่าคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียว ก่อนที่จะทำอะไร ควรคิดก่อนว่า คนอื่นจะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่เราทำได้อย่างไร
- โลกทั้งโลกนี้ ประกอบไปด้วย "คนอื่น" ทั้งหมด ยกเว้นเพียงคนเดียวเท่านั้น คือ ตัวเราเอง
* โลกนี้ เป็นโลกของการพึ่งพาอาศัยกัน
" You can have everything in life you want , If you
will just help other people get what you want "
* กุญแจสำคัญ
หาวิธีอะไรก็ตามที่เขาได้ และเราได้ ไปพร้อม ๆ กันและเมื่อนั้น เราสามารถจะได้อะไรก็ได้ในชีวิต
** การคิดให้คนอื่นได้ผลประโยชน์ และเน้นตรงส่วนนั้น จะนำ "โชคดี" มาให้คุณมากมาย
กฎข้อที่ 27 การอิจฉาจะนำโชคร้ายมาเพิ่ม
** คนโชคดี จะยินดีกับคนอื่นเมื่อเขาได้ดี หรือประสบความสำเร็จ
- เวลาที่เราอิจฉาเขา มันสมองของเรากำลังมุ่งไปที่ที่ผิด คือ มุ่งไปที่สิ่งที่คนอื่นมี แต่ที่เราไม่มี
กฎธรรมชาติของโลก
" You get more of what you focus on "
ไม่ว่าสิ่งใดที่คุณเพ่งความสนใจไป สิ่งนั้น คุณจะมีมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นความจน ความป่วย ความมั่งมี ความสุข.......
- ยิ่งคุณมุ่งคิดไปในสิ่งที่คนอื่นมี และคุณขาด ความรู้สึกด้อยนั้นก็จะมีมากขึ้น
กฎข้อที่ 28 อย่าพูดว่า คู่แข่งหรือคนที่คุณไม่ชอบ "โชคดี"
** "ความโชคดี" คือวิธีการอธิบายความสำเร็จของผู้อื่น (ที่เราไม่ชอบ)
ฌอง คอดโต (นักเขียนชาวฝรั่งเศส)
EX สิ่งที่บัณฑิต อึ้งรังสี ทำ
- ทำงานหนัก เพื่อที่จะได้เป็นเลิศในสาขาที่อยากเก่ง
- มีวิธีการคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไป (คิดต่างกัน ทำให้อนาคตต่างกัน)
- ต้องใช้ความอดทน
- ไม่ย่อท้อ เอาชนะความไม่ยุติธรรม
ข้อสำคัญ
1. มีเป้าหมายที่ชัดเจน
2. ทำงานหนัก เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ
** ในโลกนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ เมื่อเรามีความเชื่อและความกล้า
- เวลาเราเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ เราไม่ควรบอกว่าเขาโชคดี เพราะ
- ส่วนใหญ่แล้ว เป็นเพราะคุณอิจฉาเขา
- เป็นการดูถูกคนอื่นนิด ๆ
การที่คนอื่นประสบความสำเร็จหรือได้สิ่งดี ๆ มีเหตุเสมอ ไม่ว่าคุณ จะเห็นเหตุนั้นหรือไม่ก็ตาม
กฎข้อที่ 29 "ดูดี" เหมือนคนโชคดี
* เป็นเรื่องธรรมดาของโลก ที่คนที่ดูดี หล่อ สวย ก็จะได้โอกาสดี ๆ ในชีวิต มากกว่าคนที่ไม่โดดเด่น
"ดูดี" = ดูดีทั้งรูปร่างหน้าตา , การแต่งกาย , บุคลิคภาพ , ความเฉลียวฉลาด และความสะอาด
** การเป็นนักฟังที่ดี ให้ความสนใจอย่างจริงจังกับคนที่พูดคุยด้วย สามารถทำให้เรา
เป็นคนมีเสน่ห์ ซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อ " ความโชคดี "
- โชคและการดูดี มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน
กฎข้อที่ 30 จงรู้จักเห็นค่าของสิ่งที่มีอยู่แล้ว
กฎนี้ เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการเป็น "บุคคลที่โชคดี"
หากคุณเป็นเจ้านายของกฎนี้ ไม่ยากเลยที่คุณจะเป็น "คนที่โชคดีที่สุดในโลก"
The Law of Gratitude
" The more you appreciate what you already have ,
the more you will have"
ยิ่งคุณเห็นค่าสิ่งที่มีแล้ว คุณยิ่งมีเพิ่มขึ้น
** นอกจาก ความคิด ของเรา จะ "ดึงดูด" สิ่งต่าง ๆ เข้ามาในตัวเราแล้ว ความรู้สึก ของเรา ก็จะดึงดูดด้วย
" ความรู้สึกดี ๆ " ก็จะดึงดูดสิ่งของหรือสถานการณ์คล้าย ๆ กัน ที่คนทั่วไป
เรียกว่า "โชคดี"