เครื่องตัดหญ้า

เครื่องตัดหญ้า มีสามประเภทใหญ่ คือ

1 . เครื่องตัดหญ้าแบบนั่งขับ (Lawn Tractor/Ride-on Mower) เป็น เครื่องตัดหญ้า ที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนโดยน้ำมัน ส่วนมีขนาดใบมีดตัด 30 ถึง 48 นิ้ว เครื่องตัดหญ้าแบบใบมีดหมุนเหวี่ยงนี้ จะมีใบจานกลมหมุน ด้วยความเร็วรอบสูงถึง 3,000 รอบต่อนาที จะต้องอาศัย กำลังจากเพลาส่งกำลัง ของรถแทรกเตอร์ ซึ่งจะต้องมีการทดรอบ การหมุนของเพลา ส่งกำลัง ผ่านชุดเฟือง เสียก่อน เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงกำลังให้แก่ใบมีด การเปลี่ยนแปลงความเร็ว รอบของการหมุนของใบมีดนี้ สามารถทำการเพิ่มโดย ทำการเปลี่ยนชุดเฟืองที่ห้องเกียร์ (gear box) สามารถทำงานได้รวดเร็วกว่า และประสิทธิภาพในการทำงานสูง

เครื่องตัดหญ้าแบบนั่งขับ

2.เครื่องตัดหญ้าแบบเข็น (Lawn Mower/Walk-behind Mower) เเบบนี้สนามหญ้าของคุณต้องมีบริเวณมากพอสมควร เเละ สนามหญ้าจะต้องมีการปรับพื้นที่ค่อนข้างเรียบ
เครื่องตัดหญ้าแบบเข็น

3.เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่า (Brush Cutter) แบ่งตามระบบคาบูเรเตอร์จะมี2แบบ คือแบบคาบูลูกลอย และแบบคาบูไดอะแฟรมหรือผ้าปั๊ม แบบนี้ถังน้ำมันจะอยู่ด้านล่างและจะมีลูกยางใส่ๆสำหรับกดปั๊มน้ำมันอยู่ตรงคาบิวเลเตอร์ ที่นิยมใช้ตามไร่,ตามสวน จะมีเเบบเครื่องยนต์ 2 จังหวะ เเละ 4 จังหวะ

เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่า


2. ส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องตัดหญ้า คือ ใบมีดตัดหญ้า ซึ่งแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ 3 ประเภท

2.1 ใบมีดเป็นเกลียวหมุน (cylinder/reel) มีใบมีดวางรอบแกนเป็นเกลียว ลักษณะการตัดหญ้าคล้ายกรรไกร แบบมาตรฐาน สำหรับการตัดหญ้าสนาม จะมีใบมีด 5-6ใบ ใบมีดประเภทนี้จะตัดหญ้าได้สม่ำเสมอ ราบเรียบ และปลายใบหญ้าไม่ค่อยช้ำ ใบมีดแบบเกลียวหมุน จะทำให้ตัดหญ้าได้มีคุณภาพกว่าใบมีดแบบใบพัด
2.2 ใบมีดแบบใบพัด (rotary) ใบมีดอาจเป็นเพียงใบเดียวหรือเป็นกลุ่ม ลักษณะการตัดคล้ายเคียวเกี่ยวข้าว โดยใช้แรงเหวี่ยง จากความเร็วรอบสูง ในแนวราบ สนาม หญ้าที่ตัดด้วยใบมีดแบบนี้ จะไม่ค่อยราบเรียบนัก และอาจทำให้ใบหญ้าแตกช้ำ เมื่อใช้นานๆ ไปควรลับใบมีดให้คมก่อนตัด จะทำให้ตัดหญ้าได้ดีขึ้น
2.3 ใบมีดแบบใบพัดสำหรับ เครื่องตัดหญ้า ไม่มีล้อขับเคลื่อน ด้วยแรงดันอากาศ หรือแบบบินร่อน (hover mower) ใบมีด ประเภทนี้จะมีปลายเรียว ทั้งสองข้าง มีลักษณะการตัดแบบเคียว เกี่ยวข้าวที่เหวี่ยง ด้วยความเร็วรอบสูง ทำให้เกิด แรงดันอากาศ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ลอยตัวขณะตัดหญ้า ทำให้ควบคุมความสูง ของการตัดยาก ถ้าต้องการตัดหญ้าในระดับต่ำต้องใช้แรงกดช่วย หรือต้องตัด 2 ครั้ง ทำให้สิ้นเปลืองเวลา แต่มีข้อดีคือ มีน้ำหนักเบาช่วยให้ผ่อนแรงเวลาตัด และสะดวกในการเคลื่อนย้าย

3. พิจารณาว่าพื้นที่สนามหญ้าที่ต้องตัดหญ้ามีขนาดเท่าใด ถ้าพื้นที่กว้างใหญ่ควรใช้ที่ตัดหญ้าแบบนั่งขับ ถ้าพื้นที่ขนาดเล็ก ควรใช้ที่ตัดหญ้าแบบ ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า หรือเครื่องยนต์โดยมีคนเดินตาม

4. รูปร่างของสนามหญ้าที่จะตัดมีผลต่อการเลือกใช้ เครื่องตัดหญ้า เช่นกัน คือ ถ้าสนามหญ้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม มุมแหลม หรือเป็นแถบแคบๆ ไม่สะดวกต่อการใช้ เครื่องตัดหญ้าแบบนั่งขับ แต่ถ้าเป็นสนามหญ้า รูปทรงอิสระ ไม่มีพืชพันธุ์ภายใน สามารถเลือกเครื่องตัดหญ้าได้เกือบทุกประเภท

5. ระดับความราบเรียบ สม่ำเสมอของสนามหญ้าเป็นอีกสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณา คือ ถ้าสนามหญ้าราบเรียบดี ก็สามารถใช้ เครื่องตัดหญ้า ได้ทุกประเภท แต่ถ้าพื้นสนาม หญ้าเป็นหลุมเป็นบ่อ ควรใช้ เครื่องตัดหญ้า ที่มีใบมีด แบบใบพัด หรือ เครื่องที่ขับเคลื่อน ด้วยแรงดันอากาศจะดีกว่า เครื่องตัดหญ้า ที่ใช้ใบมีดแบบเป็นเกลียวหมุน

6. ความรวดเร็วในการตัดหญ้า จะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ ความราบเรียบ รูปร่างของสนามหญ้า และประสิทธิภาพของ เครื่องตัดหญ้า โดยมีความกว้าง ของใบมีดตัดหญ้า เป็นอีกปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณา คือ ยิ่งมีพื้นที่กว้างควรใช้ใบมีด ที่มีขนาดกว้าง ให้พอเหมาะกัน อาทิ พื้นที่ 400 ตร.ม. ควรใช้ใบมีดกว้าง 12 นิ้ว พื้นที่ 650 ตร.ม.ควรใช้ใบมีดกว้าง 14 นิ้ว เป็นต้น

7. ในช่วงฤดูฝนที่สนามหญ้าเปียกชื้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องตัดหญ้าที่มีล้อ เพราะจะทำให้สนามหญ้า เกิดรอย เนื่องจากน้ำหนักของเครื่องกดลง และควรเลี่ยงใช้ เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า เนื่องอาจจะเกิดอันตรายจาก กระแสไฟฟ้ารั่วได้ เครื่องตัดหญ้าไม่มีล้อ ที่ขับเคลื่อนด้วยแรงดันอากาศเป็น เครื่องตัดหญ้า ที่เหมาะที่สุด สำหรับการตัดหญ้าในฤดูฝน