งานตกแต่งผนัง

การก่อผนังอาคาร

ผนังของอาคารนอกจากจะทำหน้าที่แบ่งแยกสิ่งที่อยู่ภายนอกบ้านกับ สิ่งที่อยู่ภายในบ้านแล้ว ผนังอาคารยังเป็นสิ่งปกป้องคุ้มภัยให้ แก่ชีวิตและทรัพย์สิน ภายในบ้านทั้งจากโจรผู้ร้ายและจากสภาพดินฟ้าอากาศต่างๆ ผนังที่ก่อสร้างขึ้นมา อย่างผิดหลักหรือขาดความประณีต นอกจากจะทำให้แลดูไม่สวยงามแล้ว ยังจะก่อให้เกิดการแตกร้าวหรือรั่วซึม อันจะเป็นปัญหาแก่ผู้อยู่อาศัยในภายหลัง ในทางตรงกันข้าม ผนังที่ก่อสร้างขึ้นมา อย่างถูกหลัก และมีความประณีต ย่อมจะให้ความสวยงามและปกป้องคุ้มภัยให้ผู้อยู่อาศัยไปนานแสนนาน

ประโยชน์ของผนัง

1. แบ่งพื้นที่ใช้สอยในอาคาร
2. เพิ่มความเป็นสัดส่วน เช่น ห้องน้ำกับห้องนอน
3. ป้องกันผู้ใช้อาคารจากธรรมชาติ เช่น กันฝน แดด แมลง
4. ป้องกันผู้บุกรุก

ประเภทผนัง

ผนังหนัก ต้องมีคานมารับ เช่น ผนังก่ออิฐ

ผนังเบา จะมีคานมารับหรือไม่ก็ได้ โดยผนังเบาใช้กับโครงสร้าง ไม้ เหล็ก คสล..

ส่วนประกอบของผนังเบา

วัสดุ
ไม้แผ่น ขนาด 1/2" x 3" , 1/2" x 6"
ไม้อัด ขนาด 4" x 8" , 1.20 x 2.4m. หนา 4,6,10,15,20 mm.
กระเบื้องซีเมนต์ใยหิน ( กระเบื้องกระดาษ ) ขนาด 1.20 x 2.40 mm. หนา 6,8 mm.

แผ่นยิปซัม ขนาด 1.20 x 2.40 m ( แผ่นเล็ก ขนาด 0.60 x 0.60 , 0.60 x 1.20 , 1.20 x 1.20 ก็มี เอาไว้ทำฝ้าเพดาน ) ไม่ควรนำไปใช้เป็นผนังภายนอกเพราะจะไม่ทน

• แผ่นยิบซัมธรรมดา
• แผ่นยิปซัมอลูมิเนียมฟลอยด์ 
• แผ่นยิปซัมทนไฟ
• แผ่นยิปซัมทนความชื้น
• แผ่นยิปซัมเคลือบผิวพีวีซี (นิยมไว้ทำฝ้า)
• แผ่นยิปซัมปรุลาย (นิยมไว้ทำฝ้า)

แผ่นยิปซัมแบ่งออกเป็น

• ขอบเรียบ โดยมากเอาไว้ทำฝ้า
• ขอบลาด มักเอาไว้ทำผนัง เพราะซ้อนรอยต่อได้ ด้วยยิปซัมพลาสเตอร์ และเทปผ้า

 

บัวเชิงผนัง

ประโยชน์ คือ
1. ปิดรอยต่อผนัง และพื้น
2. ป้องกันผนังเลอะจากการทำความสะอาด บัวจึงมักมีสีเข้มหรือสีเดียวกับพื้น
ใช้ไม้ขนาด 1/2" x 4" , 1/4" x 4"
บัวเชิงผนังที่ดีต้องยุบเป็นแนวเดียวกับผนัง 
อาจเป็นไม้หรือกระเบื้องยางก็ได้ พวกแย่ๆจะใช้แค่ทาสีหลอกไว้
ถ้าใหญ่ไปจะทำให้ห้องดูแคบ

ข้อควรคำนึงในการออกแบบผนัง
ควรจะเหมาะกับประโยชน์ใช้สอย และตำแหน่งผนัง
บริเวณผนังด้านนอกควรใช้ไม้แผ่น เพราะโดนความชื้น
ผนังกั้นห้องภายในใช้ไม้อัดหรือยิปซัมก็ได้

ไม้มอบฝ้า (คิ้ว)
ทำหน้าที่คล้ายบัวเชิงผนัง แต่ปิดรอยต่อระหว่างผนังและฝ้าเพดาน ที่อาจมีช่องไม่เรียบร้อย
ทำให้ห้องดูแคบหรือเตี้ยลงได้
ฝาไม้ตีตามตั้ง ตะปู 1 1/2" ตะปูควง 1 3/4" ฝาไม้ตีตามตั้ง คร่าวไม้ตีตามนอน กันน้ำได้บ้าง

การเข้าไม้ผนัง
1. ตีทับแนว
2. ตีทับแนวสลับ
3. ตีทับแนวชิด
4. ตีเข้าลิ้น
5. ตีบังใบ
6. ตีบังใบเซาะร่องตัววี

กรรมวิธีและวัสดุที่ใช้ในการก่อผนังอาคาร

การก่อผนังสำหรับอาคารบ้านเรือนในปัจจุบันสามารถทำได้หลายแบบโดยแบ่งแยกตามกรรมวิธีและวัสดุที่ใช้ ที่พบเห็นกัน บ่อยๆ ได้แก่

1. ผนังก่ออิฐฉาบปูน

ผนังชนิดนี้เป็นชนิดที่พบห็นกันบ่อยที่สุดเพราะวัสดุที่ใช้ก่อผนังซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่าอิฐมอญนั้นเป็นวัสดุที่หาง่าย ราคาถูก จึงนิยมใช้กันทั่วไป ทำได้ทั้งเป็น ผนังรอบนอกของอาคารและผนังกั้นห้องภายใน ให้ความแข็งแรงทนทานและคุ้มแดดคุ้มฝนได้ดี ไม่ค่อย ดูดซึมน้ำหรือเก็บความชื้น

2. ผนังคอนกรีตมวลเบาฉาบปูน

ปัจจุบันมีการนำคอนกรีตมวลเบามาใช้ก่อผนังแทนอิฐมอญกันมากขึ้นคอนกรีตมวลเบาหรือบางแห่งอาจเรียกว่าอิฐมวลเบาเป็น วัสดุผสมที่ผลิตขึ้น โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญคือปูนซีเมนต์ ปูนขาว และทราย โดยมีการเติมสารบางอย่างเพื่อให้เกิดฟองอากาศขนาด เล็กเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่ในเนื้อ ของวัสดุ ทำให้คอนกรีตมวลเบามีน้ำหนักเบากว่าอิฐมอญทั่วไปในขนาดก้อนที่เท่ากัน คอนกรีตมวลเบาถูกพัฒนา ให้มีคุณสมบัติที่เหนือกว่า อิฐมอญหลายประการ นอกเหนือจากคุณสมบัติเด่นในเรื่องของน้ำหนัก ซึ่งทำให้สามารถลดน้ำหนักโดยรวมของโครงสร้างอาคารแล้ว คอนกรีตมวลเบา ยังมีคุณสมบัติเด่นอีกหลายประการ เช่น มีความแข็งแรง ทนทาน ป้องกันและทนความร้อนได้สูง ไม่ติดไฟ เป็นฉนวนไฟฟ้า และป้องกันเสียงได้ดี ทุกวันนี้ แม้มีการนำคอนกรีตมวลเบามาใช้ในการสร้างอาคารกันมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นงานโครงการหรืออาคาร ใหญ่ๆ เสียมากกว่า แต่การนำมาใช้กับ บ้านเรือนทั่วไปนั้นยังไม่มากนัก เนื่องจากยังมีราคาแพงเมื่อเทียบกับอิฐมอญ

3. ผนังอิฐบล็อก

ผนังชนิดนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยเช่นกัน ส่วนใหญ่มักจะทำเป็นกำแพงรั้ว ผนังของตัวโรงงาน หรือโกดังเก็บของโดยไม่จำ เป็นต้องฉาบปูนทับผนังชนิดนี้ ให้ความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าผนังก่ออิฐข้างต้น อีกทั้งการดูดซึมน้ำหรือเก็บความชื้นก็มีมากกว่าเพราะ เนื้อของอิฐบล็อกโปร่งและกลวง ทำให้ขึ้นรา หรือเกิดตะไคร่น้ำได้ง่าย การนำอิฐบล็อกไปก่อเป็นผนังของตัวอาคารบ้านเรือนแล้วฉาบปูน ทับให้เรียบแทนการใช้อิฐมอญยังคงมีพบเห็นได้บ้าง โดยเฉพาะ อาคารพาณิชย์ราคาถูกๆ เนื่องจากผนังประเภทนี้มีราคาถูก แต่ก็ไม่ค่อย นิยมทำกันมากนักเนื่องจากเหตุผลข้างต้นที่ได้กล่าวมาแล้ว

4. ผนังยิปซัมโครงคร่าวอะลูมิเนียม

ผนังชนิดนี้นิยมทำกันแพร่หลายเพราะทำได้สะดวก รวดเร็ว น้ำหนักเนา อีกทั้งราคาย่อมเยา แต่ไม่ค่อยแข็งแรงและไม่กันน้ำ จึงมักทำเป็นผนังกั้นห้อง ภายในเท่านั้น โดยเฉพาะการตกแต่งกั้นห้องสำหรับสำนักงานหรืออาคารพาณิชย์ที่ก่อสร้างตัวอาคารไว้ก่อน แล้วนิยมทำกันมากเพราะให้ความคล่องตัวสูง แต่สำหรับบ้านเรือนที่ปลูกใหม่ในปัจจุบันมักจะกั้นห้องด้วยผนังก่ออิฐฉาบปูนมากกว่า เพราะให้ความแข็งแรงกว่า

5. ผนังกระเบื้องเรียบโครงไม้

ผนังชนิดนี้มีคุณสมบัติ และ กรรมวิธีการสร้าง คล้ายคลึงกับ ผนังยิปซัมข้างต้น แต่เนื่องจาก กระเบื้องเรียบ เป็นวัสดุที่ไม่เกิด ความ เสียหาย เมื่อถูกน้ำฉะนั้น ผนังชนิดนี้ จึงสามารถใช้ทำผนัง ได้ทั้งภายนอก และภายในตัวอาคาร แต่ก็ไม่ค่อยแข็งแรงนัก มักใช้กับบ้านเรือน ขนาดเล็ก ที่ต้องการประหยัด ซึ่งสามารถพบเห็นได้บ่อยในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว เนื่องจากกระเบื้องเรียบมีความยืด หยุ่นตัวน้อย จึงเกิดรอยแตกร้าว ได้ง่ายเมื่อโครงไม้ เกิดการยืด หรือหดตัว อีกทั้งไม่ก็มีราคาแพงขึ้น