การออกแบบจัดสวน
ออกแบบสวน
พื้นที่สำหรับการปลูกสร้างบ้านในปัจจุบันนับวันจะลดน้อยลงทุกที แต่ถ้าคุณพอจะมีพื้นที่เหลือ อยู่บ้าง ก็อยากจะแนะนำ ให้ลอง จัดสวนเล็กๆ พร้อมที่สำหรับนั่งเล่นไว้ในบ้าน จะช่วยให้บริเวณบ้าน ดูน่าอยู่ขึ้น แถมยังได้ประโยชน์ใช้สอย ในการพักผ่อน และ รับแขกเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขั้นตอนการจัดสวน
- สำรวจพื้นที่
เมื่อจะเริ่มจัดสวน สิ่งแรกที่ควรทำ คือ ทำการสำรวจพื้นที่ที่คุณมี ว่าพื้นที่ของเรามีรูปทรงแบบไหน เป็นรูปทรงเรขาคณิต หรือรูปทรงอิสระ แล้วทำการร่างภาพของพื้นที่ลงบนกระดาษ โดยใช้สัดส่วนคร่าวๆ และอาจจะถ่ายภาพ มุมกว้างของทั่วทั้ง บริเวณเก็บไว้ประกอบการใช้งานด้วย หาจุดเด่นและจุดด้อย
เมื่อได้ภาพร่างคร่าว ๆ แล้ว ให้หาจุดเด่นของสวนที่คุณจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะและเก้าอี้นั่งเล่น โดยอาจพิจารณาจาก มุมที่เป็นส่วนตัว,มุมที่สามารถมองเห็นวิวที่สวยที่สุดในบ้าน ฯลฯ ซึ่งถ้ามุมที่มีร่มไม้ใหญ่ช่วยบดบังความร้อนได้จะยิ่งดี เพราะเมื่อจัดสวนเสร็จคุณจะสามารถใช้งาน ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลารอให้ต้นไม้โต และถ้ามุมไหน ที่มองดูแล้ว ไม่ช่วยเสริมส่งให้ สวนสวย อาจจะเป็นซุ้มไม้เก่า หรือต้นไม้ที่โตเกินขนาดแล้วดูไม่สวย ถ้าไม่รื้อออกไปเลย ก็ควรจะทำ การซ่อมแซม หรือตัดแต่งให้เข้ารูปเข้าทรง ก่อนจะเพิ่มเติมอะไรลงไปในสวน - แบ่งพื้นที่ใช้งาน
พื้นที่ใช้งานในสวนแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ พื้นที่นั่งพักผ่อน,ทางเดิน และ พื้นที่ปลูกต้นไม้
พื้นที่นั่งพักผ่อน
เป็นจุดที่เด่นที่สุดของสวน จึงควรกำหนดเป็นจุดแรก ว่าจะใช้พื้นที่มากน้อยขนาดไหน ส่วนใหญ่แล้ว พื้นที่ส่วนนี้ มักทำให้กว้างกว่า ขนาดของโต๊ะ-เก้าอี้ ไม่มากนัก เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ ยกเว้นแต่ว่า ถ้าคุณมีพื้นที่ เหลือค่อนข้างมาก ก็อาจจะ สร้างพื้นที่นั่ง ให้ค่อนข้างใหญ่ เผื่อไว้ให้เด็กๆ วิ่งเล่น ,ทำซุ้มไม้ประดับ ,เพิ่มเติมสระน้ำ หรือน้ำพุ เพิ่มความชุ่มชื่นเข้าไปด้วยก็ได้
ทางเดิน
นอกเหนือจากเพื่อการเดินชมสวนแล้ว ทางเดินในสวนยังมีประโยชน์ในการเข้าไปรดน้ำ,ตัดแต่งกิ่ง,ให้ปุ๋ย ดังนั้นจึงควรมี ทางเดิน ที่สามารถเข้าไปดูแลต้นไม้ได้ทั่ว ทุกจุดของสวน
พื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้
ควรกำหนดจุดที่จะลงไม้ยืนต้นก่อนเป็นอันดับแรก โดยสังเกตุว่าจุดไหนที่ได้แดดสม่ำเสมอบ้าง เพราะไม้ยืนต้น ส่วนใหญ่ค่อนข้าง จะชอบแดด เมื่อได้ไม้ยืนต้นเรียบร้อยแล้วค่อยมากำหนดพันธุ์ไม้อื่นๆ ซึ่งควรจะปลูกไล่ลงมา ตามลำดับความสูงของต้น จากต้นใหญ่สุด จนกระทั่งเล็กสุดให้ล้อมอยู่ด้านนอก จำทำให้เรา สามารถชื่นชม ความงามของ ต้นไม้ แต่ละต้นได้เต็มที่ ไม่บดบังกัน และสวนจะดูมีมิติมากขึ้นด้วย
เลือกวัสดุ
เมื่อกำหนดจุดต่างๆได้แล้ว ควรตัดสินใจว่าจะใช้วัสดุอะไรบ้างในแต่ละส่วน แล้วจึงค่อยไปเลือกซื้อ หาตาม ความต้องการ จะช่วยให้จัดสวนได้ง่ายขึ้น อาจจะลองเปิดดูตามหนังสือเกี่ยวกับการจัดสวน ว่ามีวัสดุอะไร ที่เราสามารถ เลือกมาใช้ได้บ้าง หรือปรึกษาตามร้านขายอุปกรณ์เหล่านี้ ที่สำคัญ สิ่งของที่คุณจะใช้ในสวน ต้องคำนึงถึงความทนทาน ทนแดด และฝนด้วย จะได้ไม่ต้องซื้อหากันบ่อยๆ ให้เปลืองสตางค์
สิ่งที่ควรระวังก่อนปลูกหญ้าและต้นไม้
เมื่อเวลาปลูกบ้านเสร็จใหม่ๆ พื้นที่โดยรอบซึ่งจะทำ เป็นสนามหญ้าหรือปลูกต้นไม้เล็กและใหญ่ จะต้องเก็บเศษ หินและเศษปูน ออกให้หมดก่อน ไม่ใช่ถมลงไปเลยซึ่งจะทำ ให้ปลูกหญ้าหรือต้นไม้ไม่ขึ้น หรือถ้าขึ้นก็จะโตช้ากว่าปกติ ก่อนที่จะถมดิน หรือ ปรับระดับดิน ควรจะคิดถึงทาง ระบายน้ำให้เรียบร้อยก่อน โดยปรับระดับให้สามารถไหล ออกไปสู่ท่อระบายน้ำภายใน หรือออกสู่ท่อสาธารณะได้ เพราะถ้ามิได้คิดไว้ก่อน เวลาฝนตกลงมาหรือรดน้ำ ต้นไม้ ถ้าดินไม่สามารถ ระบายน้ำ ทันก็จะทำให้ รากของต้น ไม้เน่าได้ และอีกอย่างที่ไม่ควรลืมก็คือ ก๊อกสำหรับรดน้ำต้น ไม้ด้วย
วิธีปลูกต้นไม้ใหญ่บริเวณบ้าน
ทุกวันนี้นิยมนำต้นไม้ขนาดใหญ่มาปลูกเลย โดย ไม่ได้โตจากต้นขนาดเล็กจึงต้องควรระวังมาก โดยเฉพาะ ต้นไม้ที่ไม่มีรากแก้ว มีแต่รากฝอย เพราะถ้านำมาปลูก ใกล้ตัวบ้าน เวลาลมพัดแรงๆ อาจจะทำให้ล้มลงมาทับตัว บ้านได้ ซึ่งจะไม่คุ้มกันเลย เพราะฉะนั้น เวลาจะปลูกต้นไม้ ขนาดใหญ่ จะต้องมีค้ำยันอย่างแน่นหนาทุกทิศทาง และ ควรทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ปี ถ้าจะให้ดีควรปลูกห่างจากตัว บ้านจะปลอดภัยที่สุด
วิธีการจัดวางต้นไม้ภายในบ้าน
การจัดวางต้นไม้ภายในบ้าน ต้องคำนึงถึง
1.ไม่ควรวางต้นไม้ใกล้หรือบนสิ่งที่มีอุณหภูมิสูง เช่น หลังตู้เย็น
2.ไม่ควรวางในที่อับลม เพราะว่าต้นไม้เป็นสิ่งมี ชีวิต ต้องการการถ่ายเทของอากาศพอควร
3.ไม่ควรวางในที่ลมแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ ต้นไม้ล้มได้
4.หากวางต้นไม้ใกล้หน้าต่างที่มีแสงส่องต้นไม้ ควรหมุนต้นไม้ให้ได้รับแสงทั่วทั้งต้นเสมอๆ เพื่อไม่ให้ต้น ไม้โน้มลำต้น ไปหาแสงเพียงด้านเดียว
5.ควรเลือกต้นไม้ที่อยู่ในร่มได้ มิฉะนั้นต้องเปลี่ยน บ่อยๆ หรืออาจทำให้ต้นไม้ตายได้
การเลือกขนาดของต้นไม้ให้เหมาะสมกับห้อง
การเลือกขนาดของต้นไม้ควรพิจารณาขนาดของห้อง และความสูงต่ำของเพดานเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเพดานห้องต่ำก็ไม่ควร ใช้ต้นไม้ ที่มีทรงสูงชลูดอย่างเช่น ปาล์ม ซึ่งเมื่อต้นโตถึงเพดานแล้วจะทำให้รูปทรง เสีย จึงควรใช้ต้นไม้ที่สูงต่ำกว่าเพดานบ้าน
ในกรณีที่ ฝ้าเพดานสูงมาก การใช้ต้นไม้สูงเกือบถึงเพดานจะช่วยลดความรู้สึกว่าห้องสูงได้ ทำให้ไม่ดูอ้างว้าง และช่วย ทำให้เกิด ความรู้สึกอบอุ่น และเป็นกันเองมากขึ้น ด้วย
ควรเลือกชนิดของพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมสำหรับอยู่ ในที่ร่ม มีใบค่อนข้างหนา และมีโครงสร้างแข็งแรง จึงจะ สามารถอยู่ในร่ม ได้นานไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ
วิธีทำให้ต้นไม้ภายในบ้านดูสวยและสดชื่น
ถ้าจะปลูกต้นไม้ภายในบ้านที่มีจำนวนมาก ควรจะ มีบริเวณรอบบ้านเอาไว้พักต้นไม้เพื่อหมุนเวียน เพราะต้นไม้ ที่สามารถ อยู่ในที่ร่มได้ จะอยู่ได้เพียง 1-2 อาทิตย์เท่า นั้น ซึ่งจะทำให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาได้ ควรจะนำออกมาภายนอก บ้านประมาณ 1 เดือน แล้วจึงเวียนนำเข้าไปใหม่ และส่วน ที่พักต้นไม้ควรมีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีแดดรำไรไม่ มากจนเกินไป
วิธีการปลูกต้นไม้บนดาดฟ้าบ้าน
การปลูกต้นไม้บนดาดฟ้า จะต้องคำนึงถึง
1. ได้เตรียมโครงสร้างเผื่อไว้หรือไม่ เพราะน้ำหนัก ต้นไม้ ดิน และน้ำที่รดลงไป จะมีน้ำหนักมากเมื่อรวมกัน จะต้องบอกวิศวกรด้วยว่าจะปลูกต้นไม้
2. จะต้องเตรียมรูระบายน้ำให้เพียงพอ และสามารถ ตรวจเช็คได้ โดยไม่ให้ดินกลบหมด เพราะมิฉะนั้นจะทำให้ อุดตัน ทำให้ต้นไม้ตาย และเพิ่มน้ำหนักน้ำเข้าไปมากกว่า ปกติด้วย ทั้งต้องไม่ลืมก็อกน้ำ เพื่อรดต้นไม้ด้วย
3. ความลึกของตัวดาดฟ้า ต้องมีอย่างน้อย 30 ซม. จนถึง 1 เมตร จึงจะทำให้มีดินเพียงพอในการปลูกต้นไม้ และพื้นผิวคอนกรีต จะต้องทำระบบกันน้ำเป็นพิเศษ สำหรับ ปลูกต้นไม้โดยเฉพาะ
การทำสวนกระบะบนบ้าน
สวนกระบะก็คือ สวนที่มีขอบเขตค่อนข้างจำกัดใช้ วัสดุและพืชพันธ์น้อยชนิด สำหรับวัสดุที่ใช้ทำกระบะเลือก ใช้ได้ตาม ความชอบ จะเป็นปูน หรือกระถางดินเผาสำเร็จ รูปก็ได้ แต่ถ้าเป็นกระบะปูนควรมีความลึกพอสมควร ผิว ซีเมนต์ จำเป็นต้องขัดมัน เพื่อไม่ให้ความชื้นจากดินและน้ำ ระเหยออกมาสู่ภายนอกได้ กระบะทุกอัน ต้องมีรู ระบายน้ำเสมอ เพื่อไม่ให้ต้น ไม้เน่า เมื่อเวลารดน้ำ ถ้าเป็นกระบะที่ระเบียงบ้าน ควรระ วังเรื่องการระบายน้ำว่าจะไปทางไหน และไม่ให้ไปอุดตันท่อ รูระบายน้ำ ควรใส่ตะแกรงไว้ด้วยเพื่อกันเศษดิน
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย การเลือกพันธุ์ไม้ พิจารณา ได้จากขนาดของกระบะ และความสัมพันธ์กันระหว่างขนาด ของลำต้นและใบของพันธ์ไม้ เพราะเมื่อเจริญเต็มที่ แล้วจะ ดูสวยงามตลอดไป